“บิ๊กต้อม” ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยชุดโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ไม่หวั่นสื่อต่างชาติฟันธง “เทนนิส” อาจไปไม่ถึงเหรียญทอง ชี้เป็นความคิดเห็นและการวิเคราะห์ส่วนตัว ย้ำยังมั่นใจในฝีมือความสามารถของจอมเตะสาวไทย พร้อมเตรียมจัดเสบียงอาหารและ สิ่งจำเป็นส่งถึงสนามแข่ง 24 กรกฎาคมนี้เต็มที่
“บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทยชุดสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของทัพนักกีฬาไทยที่ได้ทยอยเดินทางเข้าสู่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่แล้วว่า ขณะนี้ยังไม่พบนักกีฬามีปัญหาอาการบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมที่น่ากังวลใดๆ นักกีฬาทุกคนมีขวัญกำลังใจที่ดี ส่วนกรณีที่ขณะนี้มีนักกีฬาต่างชาติเริ่มเข้ามาพักในหมู่บ้านนักกีฬามากขึ้น และนักกีฬาต่างชาติบางคนอาจจะถอดหน้ากาก หรือ ไม่สวมหน้ากากบ้าง อย่างในหมู่บ้านนักกีฬาถ้ามีเจ้าหน้าที่พบเห็นก็จะเข้าไปเตือนให้สวมหน้ากาก แต่ที่สนามกีฬาบางแห่ง อย่างที่สนามยิงเป้าบินที่ตนได้รับรายงานว่า มีนักกีฬาต่างชาติไม่สวมหน้ากากนั้น เรื่องนี้ก็จะมีการนำเข้าไปแจ้งในที่ประชุมหัวหน้านักกีฬาซึ่งจะประชุมกันทุกวันเพื่อให้แต่ละประเทศได้มีความรอบคอบ ระมัดระวัง และเตือนนักกีฬาในด้านความปลอดภัยในจุดนี้อย่างเข้มงวดต่อไป
“สำหรับนักกีฬาไทยเรามีการแจ้งและดูแลนักกีฬาในด้านนี้อย่างเคร่งครัดทุกวันรวมถึงนักกีฬาไทยเองก็มีความตื่นตัวและมีวินัยอย่างดีเยี่ยมมากๆ ทุกคนจะปฏิบัติตัวตามที่แพทย์ได้แนะนำอย่างดีทั้งในหมู่บ้านนักกีฬาและที่สนามแข่งขัน โดยเฉพาะในหมู่บ้านนักกีฬา ทีมกองบัญชาการนักกีฬาไทยก็จะพยายามให้นักกีฬาลดความเสี่ยงโดยการเข้าไปรับประทานอาหารในโรงอาหารให้น้อยที่สุด ด้วยการจัดอาหารเช้าให้นักกีฬาโดยจะจัดเตรียมไว้ที่กอง บก.นักกีฬา ทั้ง แซนด์วิช แฮมเบอร์เกอร์ เครื่องดื่มต่าง ๆ ขณะที่มื้อกลางวันนักกีฬาจะไปรับประทานที่สนาม ส่วนมื้อค่ำก็ได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราช ทูต ณ กรุงโตเกียว ที่จัดส่งข้าวกล่องอย่างดีมีอาหารหลากหลายและในปริมาณที่มากพอให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทุกวัน”
หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ยังได้กล่าวถึงการชิงชัยเหรียญทองของทัพนักกีฬาไทยในวันแรก คือวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ที่ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ความหวังของไทยที่จะลงแข่งขันในรุ่นน้ำหนัก 49 กก.หญิงว่า หลังจากที่ได้ทราบข่าวว่ามีสื่อต่างชาติเสนอข่าวในกรณีที่ว่า พาณิภัค อาจจะไม่ได้เหรียญทองในประเภทนี้ ตนมองว่าเป็นเพียงแค่การวิเคราะห์ของสื่อ ซึ่งก็แล้วแต่สื่อไหนจะมีข้อมูลอะไร ในเรื่องนี้ถือว่าไม่ได้สร้างความหนักใจหรือความกังวลให้ทีมไทยแต่อย่างใด และคิดว่า พาณิภัค เองก็ไม่ได้กังวลในจุดนี้ซึ่งจากการได้เจอ พาณิภัค น้องก็ยังมีความมุ่งมั่น โฟกัสอยู่ที่การแข่งขันอย่างเต็มที่ และ มีความมั่นใจในฟอร์มและความสามารถของตัวเองที่ได้มีการฝึกซ้อมและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี
“ผมไม่กังวลในเรื่องความพร้อมของพาณิภัคเพราะเท่าที่ได้คุยกัน ตัวน้องเทนนิสก็มีความมุ่งมั่นมาก ทีมงานต่างๆก็ไม่อยากไปสร้างความกดดัน หรือเพิ่มความเครียดให้น้อง เราอยากให้น้องลงแข่งขันด้วยความสบายใจที่สุด แต่สิ่งที่ทีมผมจะต้องเตรียมตัวคือการดูแลน้องที่สนามโดยเฉพาะเรื่องอาหารการกินต่างๆ และ ทีมแพทย์ เพราะเทควันโดนักกีฬาจะไปแข่งขันที่สนามตลอดทั้งวันตั้งแต่ 9 โมงเช้าไปจนเกือบ 4 ทุ่ม ไม่สามารถออกไปไหนได้ เพราะฉะนั้นผมจึงได้วางแผนจัดเตรียมคนส่งอาหารและสิ่งจำเป็นในการแข่งขันไปให้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน”
“เรื่องการเข้าไปชมในสนามเนื่องจากโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้มีข้อจำกัดหลายอย่างนอกจากไม่มีผู้เข้าชมแล้ว จำนวนคนที่จะเข้าไปดูก็จำกัดอยู่เฉพาะคนที่เกี่ยวข้อง และบุคคลที่ได้เอดีการ์ดในระดับหัวหน้าทีมและวีไอพี ซึ่งต้องแจ้งขอเข้าสนามล่วงหน้าด้วยอย่างวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ นอกจากผมแล้ว ก็จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คุณพิพัฒน์ รัชกิจประการ รวมถึงท่านเอกอัครราชทูตฯ และทีมงานอีก 2-3 คนเท่านั้น ส่วนนักกีฬาชนิดอื่นๆก็ไม่สามารถเข้าไปให้กำลังใจได้เลย ยกเว้นนักกีฬาเทควันโดเท่านั้น”
“บิ๊กต้อม” ได้กล่าวเชิญชวนให้แฟนกีฬาชาวไทยช่วยส่งแรงใจเชียร์ และ ให้กำลังใจ พาณิภัค ในการลงสนามแข่งขันชิงเหรียญรางวัล จากกีฬาเทควันโดในวันที่24 กรกฎาคมนี้ให้สามารถคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ให้วงการกีฬาไทยไปพร้อมๆกันด้วย