Short Comment
Mental Coach Jegal (2022)
งานดราม่ากีฬาที่เข้มข้นและเปี่ยมแรงบันดาลใจ เอาดีได้แม้จะไม่พ้นเส้นทางเดิม
สิ่งหนึ่งที่ดูไปบ่นไปชอบดูนอกจากการดูหนังดูซีรีส์และดูมาตั้งแต่เยาว์วัยก็คือกีฬา แล้วก็ดูได้ทุกประเภททั้งดูทั้งติดตามนักกีฬาในยุคที่สื่อมีแค่หนังสือและการติดหนังติดซีรีส์ไม่ค่อยมีในยุคนั้นเพราะหาดูยาก หนึ่งในความทรงจำคือการได้รู้จักยอดนักกีฬาเก่งๆมากมายและได้รู้แง่มุมชีวิตที่กว่านักกีฬาระดับตำนานจะกลายมาเป็นอย่างที่เห็นมีอะไรต้องผ่านมาบ้าง ความชอบกีฬาจึงแปรสภาพมาเป็นความชอบในการดูหนังดูละครหรือดูซีรีส์เกี่ยวกับกีฬาตามมาและด้วยความที่เรื่องของกีฬาคือการแข่งขันมีคนแพ้มีคนชนะงานดราม่ากีฬาก็จะมีความเร้าใจเป็นสารตั้งต้นหลักที่ดูทีไรก็จะสนุกแต่จะสนุกมากสนุกน้อยก็อยู่ที่องค์ประกอบเชิงคุณภาพ จนเมื่อมีงานละครเกาหลีแนวดราม่ากีฬาออกให้ดูซึ่งผู้เขียนชอบดูละครเกาหลีอยู่เป็นทุนจึงไม่ยอมพลาดแถมยังมีนักแสดงที่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัวมารับบทนำทำให้ยิ่งต้องดู และเมื่อดูจนจบด้วยความทุลักทุเลพอประมาณเพราะยุ่งงานก็พบว่านี่คืองานที่เข้มข้นดูสนุกน่าติดตามเพียงแต่ยังไม่พ้นเส้นทางเดิมเท่านั้น
เหมือนพยายามต่างด้วยการว่ากันที่เรื่องของจิตใจนักกีฬามากกว่าการแข่งขัน การเป็นนักกีฬาที่เก่งและยืนอยู่บนจุดสูงสุดเป็นยังไงผู้เขียนจะไปรู้ได้ไงเพราะเป็นแค่นักกีฬาแข่งตาม อบต. ก็ยังไม่ได้ แต่เท่าที่รู้คือเรื่องของการดูแลร่างกายการฝึกซ้อมคือของมันต้องมีและเห็นมามากในงานดราม่ากีฬาที่เคยผ่านตามา ซึ่งโดยปกติก็จะเป็นเรื่องของร่างกายที่สัมพันธ์กับจิตใจความทรงจำของกล้ามเนื้อประมาณกายพร้อมใจพร้อม แต่กับเรื่องนี้กลับแหวกไปที่เดินเรื่องด้วยโค้ชด้านจิตใจแล้วให้นักกีฬามาเป็นปัจจัยคู่กันนั่นหมายความว่าการฝึกซ้อมและการแข่งขันจะลดบทบาทลง ซึ่งก็ลงตัวดีเพราะบทละครเรื่องนี้ก็ดูจงใจในการสร้างแรงบันดาลใจไปพร้อมกันการพยายามสะสางแก้ไขอะไรที่กัดกร่อนเกาะกินหมักหมมในวงการกีฬาเกาหลีจนส่งผลทางจิตใจนักกีฬา บทละครจึงออกมาเป็นการสร้างแรงบันดาลใจนำหน้าแล้วสะกิดแผลวงการกีฬาจนตบหน้าความฉ้อฉลของคนระดับสูงที่เป็นผลพวงจากทัศนคติดึกดำบรรพ์ จึงเห็นการปะทะกันระหว่างแนวคิดใหม่ในการสร้างนักกีฬาที่เตะผ่าหมากระบบรุ่นพี่ที่เป็นสนิมในวงการกีฬาบ้านเขา
เริ่มต้นด้วยบาดแผลแล้วพยายามเยียวยาแต่ถ้าไม่หายก็ก้าวข้ามมันเลย เพราะโลกมีทั้งมุมมืดและมุมสว่างและเป็นเช่นนี้ทุกวงการไม่เว้นแม้แต่วงการกีฬาบทละครเรื่องนี้อาจกำลังบอกคนดูแบบนั้น เมื่อผลการแข่งขันไม่ได้ถูกกำหนดด้วยเกมการแข่งขันก็คือการสร้างบาดแผลให้นักกีฬาทั้งยังลุกลามไปถึงการทำร้ายนักกีฬาที่เหมือนเป็นของคู่กันในวงการกีฬาหรือกระทั่งการคุกคามทางเพศจากโค้ช เรื่องเหล่านี้คือเรื่องจริงที่ถ้าคนเคยเสพข่าวกีฬาจะรู้กระทั่งเรื่องผลการแข่งขันที่บิดเบี้ยวของทางเกาหลีที่ในอดีตเป็นที่รู้กันดี เมื่อมีบาดแผลก็ต้องพยายามเยียวยาแต่บางครั้งแผลนั้นก็กลายเป็นแผลเป็นรักษาไม่หายเพราะแรงสะเทือนมากเกินไปจนมีบ้างที่ใครบางคนเลือกทางออกด้วยการจบชีวิต แต่สิ่งเหล่านั้นก็เลือนหายไปตามกาลเวลาเพราะทุกอย่างในวงการนี้ว่ากันที่ผลลัพธ์ซึ่งถึงที่สุดก็คงไม่อาจเยียวยาแผลได้ สุดท้ายสิ่งที่ต้องทำคือการก้าวข้ามมันให้ได้และเริ่มใหม่แต่การจะทำเช่นนั้นต้องมีคนคอยเคียงข้าง เพราะเราไม่ได้อยู่เพียงลำพังชีวิตใช่ว่าจะมีแค่การแข่งขันและบางครั้งคู่แข่งที่หินที่สุดอาจเป็นความคิดของตัวเอง
ทำให้เดินหนน้าด้วยความเข้มข้นเมื่อเรื่องเล็กประกอบเป็นเรื่องใหญ่แต่ยังไม่หลุดจากเส้นทางเดิม เพราะแผลในวงการกีฬาเกาหลีค่อนข้างลึกจากสายตาคนนอกทั้งกรณีปล้นเหรียญทองโอลิมปิกจากรอย โจนส์ จูเนียร์ เมื่อปี 1988 และฟุตบอลโลก 2002 ทำให้ละครเรื่องนี้กำลังพยายามสื่อให้คนเกาหลีทราบหรือไม่ว่าเมื่ออดีตมันแก้ไขไม่ได้ก็มาเริ่มต้นใหม่ด้วยทัศนคติใหม่วิธีการใหม่ๆที่โปร่งใสและดีต่อทุกคนรวมถึงนักกีฬา ทำให้ภาพใหญ่งานออกมาเข้มข้นเร้าใจเพราะเป็นเรื่องของการต่อสู้กับความฉ้อฉลในวงการกีฬาที่มีการคอร์รัปชั่น ทั้งยังมีความเร้าใจในภาพเล็กเมื่อคนที่ต่อสู้คือเหล่านักกีฬาที่ไปไม่สุดทางเพราะถูกกระทำจากระบบและพยายามแก้ไขมัน รวมถึงการต่อสู้ของนักกีฬาที่ที่ยืนในจุดสูงสุดมีน้อยการแข่งขันกันเองความน่ารังเกียจของวิธีการก็ส่งผลต่ออารมณ์คนดู และแน่นอนการเอาชนะตัวเองคือแก่นของเรื่องทั้งตัวนักกีฬาเองตัวโค้ชที่ยังมีแผลหรือกระทั่งวงการกีฬาเกาหลีที่พยายามจะกลับมามีที่ยืน และสุดท้ายใครบางคนก็ลุกขึ้นยืนจากภาวะตกต่ำทางใจทำให้สุดท้ายก็ยังเป็นงานตามสูตรแต่ออกมาดี
เสน่ห์ของนักแสดงและการสวมบทเป็นนักกีฬาได้เนียนตามมาตรฐานงานจากเกาหลี สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้ออกมาสนุกคือจองอูที่แสดงได้ทั้งอบอุ่นทั้งกวนและมีวุฒิภาวะในคนคนเดียว ด้วยความที่เรื่องนี้เล่นกับอารมณ์ความรู้สึกเป็นส่วนใหญ่สิ่งที่จองอูต้องทำให้ได้คือควบคุมอารมณ์คนดูไม่ให้เตลิดซึ่งจองอูทำได้ดี เพราะคนดูจะโฟกัสไปที่การพยายามช่วยนักกีฬาที่แม้ว่าวิธีการจะห่ามๆบ้างแต่คนดูจะเข้าใจในเจตนา และแน่นอนเรื่องของหัวใจที่แสดงวุฒิภาวะของคนเป็นโค้ชทางจิตใจที่ต้องควบคุมไม่ให้หลุดออกมาและจองอูรับผิดชอบได้ครบถ้วน ส่วนอียูมีนั้นเป็นตัวละครที่สร้างกำแพงให้ตัวเองเป็นหอยที่อยู่ในเปลือกที่ต้องน่ารำคาญก่อนแล้วค่อยสลัดเปลือกออกจนกลายเป็นมีเสน่ห์และพลังสร้างแรงบันดาลใจ แล้วอียูมีก็สามารถตีคู่มากับจองอูได้ด้วยเสน่ห์ที่ต้องบอกว่าราศีจับแล้วเพราะขึ้นกล้องดีมาก ส่วนการรับบทเป็นนักกีฬาของนักแสดงทั้งหมดนั้นก็ตามมาตรฐานงานเกาหลีคือดูไม่ออกเลยว่าคนไหนนักกีฬาจริงคนไหนคือนักแสดง แต่ที่น่าเสียดายคือคนดูลุ้นไปกับหมอพัคของพัคเซยองที่เข้ากับจองอูได้ดีแต่เรื่องนี้ยังขึ้นกล้องไม่พอ
เป็นงานที่หงุดหงิดเมื่อดูออกอากาศสดแต่จะสนุกจนหยุดไม่ได้ถ้าดูรวดเดียว สิ่งที่ทำให้ละครเรื่องนี้ถ้าใครได้ดูจะปล่อยวางไม่ได้คือดราม่าที่เหมือนเบาแต่หนักที่ประเดประดังเข้ามาหาตัวนักกีฬา การล็อคผลการตัดสินหรือการถูกกระทำจากโค้ชหรือการแข่งขันกันเองในทีมคือปัจจัยนอกบ้านที่มีความเข้มข้นอยู่แล้ว แต่สิ่งที่บีบหัวใจคนดูจนรู้สึกได้คือปัจจัยในบ้านคือความคาดหวังของพ่อแม่หรือครอบครัวที่เอาความหวังไปให้นักกีฬาแบก และเรื่องนี้เล่าออกมาซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนตอกย้ำทั้งตัวนักกีฬาหลักอย่างชากาอึลนักกีฬาว่ายน้ำอีมูกยอล (มุนยุคัง) หรือนักกีฬายิงธนูและที่ชัดมากคือนักกีฬายิมนาสติกที่ความสามารถและความฝันส่วนตัวไม่ใช่เรื่องเดียวกัน และสิ่งเหล่านี้เองที่ทำให้ภาพใหญ่ที่มีความเข้มข้นเร้าใจมีมิติที่ลึกมากขึ้นเพราะเรื่องเหล่านี้กัดกร่อนจิตใจนักกีฬาอย่างหนักและเป็นที่มาของการต้องมีโค้ชทางจิตใจ และทุกแรงบันดาลใจที่เรื่องนี้มอบให้ก็มาจากเรื่องประมาณนี้เป็นส่วนใหญ่ทำให้ยิ่งดูยิ่งหยุดไม่ได้และหงุดหงิดหัวใจเมื่อดูออกอากาศสด และเป็นบทเรียนชีวิตชั้นดีที่ทำให้เป็นงานที่ไม่ควรถูกมองข้าม
ดูไปบ่นไป
ขอบคุณภาพประกอบ
ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4,5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 จาก program.tving.com
ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้
- รีวิวจัดเต็ม Weightlifting Fairy Kim Bok-Joo : นางฟ้านักยกน้ำหนัก คิมบ๊กจู (2017) “ทุกสิ่งในโลกมีราคาที่ต้องจ่าย ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น” สนุก และดูสบาย
-
รีวิวจัดเต็ม Twenty Five Twenty One : ยี่สิบห้า ยี่สิบเอ็ด (2022) “ความรัก ความฝัน แรงบันดาลใจ ยุคสมัย และความจริงของชีวิต”
-
รีวิวจัดเต็ม Racket Boys (2021) มิตรภาพ หัวใจ ความรัก แรงผลักดัน ที่เล่าได้ “ดีต่อใจ”
-
รีวิวจัดเต็ม Black Dog: Being A Teacher (2019) “ถ้ามองด้วยใจเกลียดชัง หญ้าทุกใบก็คือวัชพืช แต่หากมองด้วยความเมตตา คนทุกคนก็คือดอกไม้”
-
ความเห็นหลังชม Going to You at a Speed of 493km (Love All Play (2022)) ดราม่ากีฬาที่ดูเพลินดีมีเสน่ห์ แต่ยังธรรมดาเกินไป
อ่านบทความผลงานของ “จองอู” โดย “ดูไปบ่นไป” ได้ที่นี่
-
ในความทรงจำ Reply 1994 (2014) “หอมกลิ่นความทรงจำที่ถวิลหาที่ยังตราตรึง กับปริศนาแห่งหัวใจ”
-
ความเห็นหลังชม A Model Family: ครอบครัวตัวอย่าง (2022) มีดีในการจัดการอารมณ์ในแบบดราม่าอาชญากรรมชั้นดีที่คู่ควรดู