หมอริท เรืองฤทธิ์ ขึ้นแฮชแท็กทวิตเตอร์ประเทศไทย หลังบอกมี 30 บาท คนเลยไม่รักษาสุขภาพ งานนี้ หมอก้อง สรวิชญ์ ฟาดเดือด ๆ พูดเพื่อ มันใช่เวลามั้ย ไม่เห็นด้วยก็น่าจะเฉยไว้
ภาพจาก Instagram ritz_rueangritz
สิ้นสุดกันไปแล้วสำหรับภารกิจว่ายน้ำข้ามฝั่งโขงของ โตโน่ ภาคิน ในโครงการ One Man and The River หนึ่งคนว่ายหลายคนให้ เรื่องนี้ก็ได้เป็นดราม่าไฟลุกกลางดึกอีกครั้ง เมื่อหมอริท เรืองฤทธิ์ เพื่อนสนิทของโตโน่ ได้ออกมาโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ที่จุดโซเชียลให้ลุกเป็นไฟ ว่าการกระทำครั้งนี้ของโตโน่ถือว่าดี ดีมาก ๆ แต่มันไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้จริง
โดยหมอริท ได้บอกว่าต่อให้ว่ายน้ำข้ามโขงอีก 10 รอบ ได้เงินมากกว่า 1,000 บ้านบาท หมอ พยาบาล ก็เหนื่อยเท่าเดิม และมีการพูดถึงระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาทรักษาทุกโรคว่า ข้อดีคือคนจนมีสิทธิ์เข้าถึงการรักษา แต่ข้อเสียคือคนไทยไม่ใส่ใจสุขภาพ เช่น ติดเหล้า ติดบุหรี่ และเกิดปัญหาสุขภาพตามมา
อ่านข่าว : อีกมุมดราม่า หมอริทฝากถึงโตโน่ ได้ 1,000 ล้าน หมอ-พยาบาลก็เหนื่อยเท่าเดิม กระแสเริ่มตีกลับ
ภาพจาก Instagram ritz_rueangritz
ล่าสุด (23 ตุลาคม 2565) กระแสได้ตีกลับแล้ว โดยในโลกทวิตเตอร์มีการติด #หมอริท เพื่อแย้งอีกมุมตีกลับว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่บอกว่า 30 บาท ทำให้คนติดเหล้า เพราะระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้านั้น ทำให้คนจนหลายคนได้ชีวิตกลับคืนมา ไม่มีใครอยากป่วยแน่นอน งานศึกษาเชิงประจักษ์ไม่พบว่า 30 บาท รักษาทุกโรค ก่อให้เกิด moral hazard หรือทำให้คนดูแลสุขภาพน้อยลงในภาพรวม
แม้จะรักษาฟรี 0 บาท แต่ก็ไม่คิดอยากจะป่วยหรือเข้าโรงพยาบาลเลยแม้แต่น้อย มันไม่มีใครอยากป่วยหรอก แต่ที่ต้องเจ็บต้องป่วยบางครั้งมันก็มาจากภาวะบีบคั้น การไม่มีกิน ต้องทำงานหนัก เสี่ยง นอนไม่พอ เพื่อหาเงินมาดูแลครอบครัวให้มีชีวิตอยู่รอดในประเทศที่เศรษฐกิจแย่ ๆ แบบนี้
ขณะที่อีกมุมก็มองว่า ที่หมอริทบอกรักษาฟรีทำให้คนไม่รักษาสุขภาพแล้วโดนด่านั้น เข้าใจนะในมุมมองทั่วไปจะพูดทันทีว่าไม่มีใครอยากป่วยหรอก แต่หมอริท ยกตัวอย่างชัดเจนเรื่องโรคบางโรค เช่น กินเหล้า เบียร์ กัญชา สูบบุหรี่ กระท่อม สิ่งนี้ที่หมอเขาต้องการสื่อ ซึ่งบางโรคมันเกิดจากการไม่ใส่ใจจริง ๆ แล้วโรงพยาบาลต้องมาแบกค่ารักษาพวกนี้ฟรี บางโรคที่เกิดจากการไม่ใส่ใจสุขภาพ ควรไม่ฟรี ก็โรคพวกนี้เสี่ยงเป็นจากพฤติกรรมอยู่แล้วให้หาเงินทำประกันเองเลย
ขณะที่ หมอก้อง สรวิชญ์ ก็ได้ออกมาฟาด หมอริท โดยระบุว่า “พูดเพื่อ ??? หวังดีเหรอ มันใช่เวลามั้ย ใครทำอะไรได้ก็ช่วยกันสิ จะรอคนโน้นคนนี้มาทำทำไม คนมีหน้าที่หลัก ๆ เค้าก็ทำอยู่ ไม่ใช่ไม่ทำ อย่าอคติ เพียงแต่อาจจะทำได้ยังไม่ถึงระดับที่น้องพอใจ ก็นี่ไง… ก็มีคนมาช่วยเท่าที่เขาทำได้อยู่นี่ไง จากหนึ่งคนเป็นหลาย ๆ คน ช่วยกันบริจาค ก็การบริจาคเป็นทางที่พวกเขาสามารถช่วยได้ไงเขาเลยทำ จะให้เขาไปแก้ไขโครงสร้างสาธารณสุขหรือไง
ไม่เห็นด้วยก็น่าจะเฉยไว้ คนที่เค้าทำ เค้ายอมเหนื่อยให้ส่วนรวม แม้คนที่ไม่เห็นด้วยกับกิจกรรม ด่าเค้าปาว ๆ ก็ยังได้ประโยชน์ไปด้วย เพราะเขาทำ “เพื่อส่วนรวม” จริง ๆ ผมก็ไม่ได้สนิทกับโตโน่ แต่ในฐานะแพทย์คนนึง กล้าพูดได้เต็มปากว่า หมอคนนี้เห็นสิ่งที่โน่ทำแล้วปลื้มใจ หายเหนื่อยครับ ยิ่งเห็นว่ามีคนร่วมบริจาคมาเยอะขนาดนี้ด้วย ยิ่งหายเหนื่อย มันหายเหนื่อยเพราะเห็นว่าในสังคมยังมีคนกลุ่มหนึ่ง ไม่เล็กด้วย ที่เห็นใจพวกเรา และอยากช่วยเหลือพวกเราด้วยวิธีที่พวกเขาทำได้ ขอบคุณมากครับ”