ขึ้นแท่นปักที พิศณุ นิลกลัด FB : @Pitsanuofficial
มีคำกล่าวของฝรั่งว่า Marriage is a team sport. การแต่งงานเป็นกีฬาประเภททีม
การสร้างทีมกีฬาที่ดีต้องใช้เวลา สมาชิกในทีมต้องพูดคุยสื่อสารกัน ต่างคนต้องทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดี เป็นกำลังใจให้กันและกันเพื่อให้ทีมประสบความสำเร็จ
การเล่นกีฬา การออกกำลังกาย มีส่วนสำคัญทำให้ชีวิตแต่งงานมีความสุข
มีรายงานการศึกษาน่าสนใจโดย Yale School of Public Health สหรัฐอเมริกา พบว่าภรรยาที่สามีอยู่ในช่วงวัย 60 กว่า สามีเข้าฟิตเนสออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเป็นประจำ มีโอกาสประสบกับอาการซึมเศร้าน้อยกว่าภรรยาที่สามีวัย 60 กว่า ๆ ที่ไม่ได้เข้าฟิตเนสออกกำลัง หรือเล่นกีฬาเป็นประจำ
แม้ตัวภรรยาจะไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำเหมือนสามี แต่ภรรยาก็มีความสุข
นักจิตวิทยาของ Yale School of Public Health ได้ทำการสำรวจคู่สามีภรรยากว่า 1,200 คู่ เฝ้าดูระดับการใช้พลังงานทำกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวัน หรือ physical activity level (PAL) และความเสี่ยงต่อการเกิดอาการซึมเศร้า ในช่วงเวลากว่า 10 ปี
พบว่าสามีที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ส่งผลในแง่บวกต่อสภาพจิตใจให้กับภรรยาของพวกเขา และยังทำให้ตัวสามีเองประสบกับอาการซึมเศร้าน้อยลงด้วย
แต่การที่ภรรยาออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่ได้ช่วยส่งผลต่อสภาพจิตใจของสามีอย่างชัดเจนนัก
เรื่องนี้คณะผู้ศึกษาวิเคราะห์ว่า ภรรยามีความอ่อนไหวในเรื่องความรู้สึกของสามี หากสามีออกกำลังกายแล้วมีความสุข ภรรยาก็สุขด้วย
นอกจากนี้ ภรรยามักจะทำกิจกรรมออกกำลังที่สามีชอบทำ เพราะภรรยาให้ความสำคัญกับความมั่นคงในชีวิตคู่ ส่วนสามีมักจะทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบเป็นหลัก
สรุปง่าย ๆ เป็นภาษาชาวบ้านก็คือ ภรรยาเห็นแก่ความสุขของครอบครัว ส่วนสามีเห็นแก่ความสุขของตัวเองเป็นที่ตั้ง
เชื่อกันว่ากิจกรรมทางกายภาพมีความสัมพันธ์อย่างมากกับสุขภาพจิตของคนคนหนึ่ง โดยเมื่อมีการใช้พลังงานในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขไปยังสมอง ส่งผลให้รู้สึกดี มีความสุข โดยจะส่งผลชัดเจนขึ้นกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเมื่อมีอายุมากขึ้น เพราะหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงมีความสุข คือการที่สามีของเธอมีความสุข
ประโยชน์ของการที่สามีออกกำลังกายเป็นประจำ นอกจากช่วยทำให้ภรรยามีความสุขมากขึ้น ยังส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศของสามีด้วย
จากการศึกษาของ ศูนย์การแพทย์ ซีดาร์ส-ไซนาย (Cedars-Sinai Medical Center) ซึ่งเป็นศูนย์การแพทย์ดังแห่งนครลอสแองเจลิส ศึกษาผู้ชายเกือบ 300 คน ถึงความสัมพันธ์ของการออกกำลังกายกับสมรรถภาพทางเพศ พบว่าผู้ชายที่มีสมรรถภาพทางเพศเยี่ยมนั้น คือผู้ชายที่ออกกำลังเป็นประจำ 3 ระดับ
การออกกำลังเป็นประจำ ไม่จำเป็นต้องออกกำลังอย่างหนักทุกสัปดาห์จึงจะช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
ผู้ชายที่ออกกำลังเบา ๆ แต่ใช้เวลาออกกำลังนานหลายชั่วโมงต่อสัปดาห์ ก็ช่วยให้เรื่องทางเพศแข็งแรงขึ้นเช่นกัน
คณะผู้ศึกษาแบ่งระดับความเข้มข้นของการออกกำลังกายต่อสัปดาห์ ที่ส่งผลดีทางเพศของผู้ชายทุกเชื้อชาติ ทุกสีผิว ดังนี้
1.ออกกำลังกายหนัก เข้มข้น เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ สัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง
2.ออกกำลังกายปานกลาง ไม่หนักไม่เบาเกินไป สัปดาห์ละ 3 ชั่วโมงครึ่ง
3.ออกกำลังเบา ๆ สัปดาห์ละ 6 ชั่วโมง
ผู้ชายที่ออกกำลังทุกสัปดาห์ อย่างใดอย่างหนึ่งใน 3 ข้อนี้ พบว่ามีสุขภาพทางเพศฟิตปั๋ง