ผลพวงจากภาวะเงินเฟ้อและต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้สารพัดวัตถุดิบปรับขึ้นราคาลากยาวตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา อาจทำให้เชนร้านอาหารแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย และไม่อาจหลีกเลี่ยงการปรับขึ้นราคาได้
ไม่เว้นแม้แต่ ‘Sizzler’ ร้านอาหารในเครือไมเนอร์ ฟู้ด ที่หลายคนรู้จักกันดี เพราะมี ‘บุฟเฟต์สลัดบาร์’ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของราคาที่คุ้มค่า 139 บาท เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ และได้ปรับขึ้นราคาขึ้นมา 199 บาท ซึ่งจากเดิมราคาดังกล่าวเป็นราคาขายเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- กรณีศึกษา Sizzler กำลังสนใจ Subscription Model ส่งสเต๊กและอาหารสุขภาพถึงหน้าบ้าน วางราคาแพ็กเกจเป็นรายอาทิตย์
- บทเรียน 2 ปีของการขาย ‘เมนูแพลนต์เบส’ ทำให้ Sizzler รู้แล้วว่าต้องทำให้ ‘แซ่บ’ เพื่อถูกปากคนไทย
- ‘เจ้าของสุกี้ตี๋น้อย’ ยืนยัน ‘ไม่ขายกิจการ’ มีเพียงการเจรจาเพื่อหาความร่วมมือเท่านั้น ส่วนปีนี้เตรียมเปิดอีก 4 สาขา
กรีฑากร ศิริอัฐ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และการเงิน บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ก่อนหน้านี้มีลูกค้าหลายคนที่ออกมาเรียกร้องผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ให้ Sizzler พัฒนาสลัดบาร์ให้ดีที่สุดไปเลย แม้จะเพิ่มราคาก็ยอมรับได้
ดังนั้น Sizzler จึงได้เพิ่มเมนูออปชันใหม่ๆ ด้านสุขภาพมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งอาหาร ผัก และผลไม้ ให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค และมีการปรับขึ้นราคาในวันจันทร์ถึงศุกร์ จาก 139 บาท ขยับขึ้นมาเป็น 199 บาท ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2565 เป็นต้นมา เฉพาะสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ส่วนเมนูอื่นๆ ภายในร้านยังขายราคาเดิม ขณะที่ปัจจัยของต้นทุนวัตถุดิบก็มีส่วน เพราะปัจจุบันวัตถุดิบบางรายการต้องนำเข้าจากต่างประเทศ และบางรายการอยู่ในประเทศซึ่งราคาต้นทุนมีความผันผวนอย่างมาก จึงต้องบริหารจัดการเพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด
ขณะที่สาขาในต่างจังหวัด สลัดบาร์ยังอยู่ในราคาเดิม 139 บาท ช่วงวันจันทร์ถึงศุกร์ เพราะลูกค้าในต่างจังหวัดมีความอ่อนไหว และอาจมีกำลังซื้อที่ค่อนข้างจำกัด
แน่นอนว่ามีทั้งเสียงตอบรับจากลูกค้าที่เป็นไปในทางที่ดี แม้มีลูกค้าบางกลุ่มที่อาจยังไม่ชิน แต่เราได้พยายามนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ และเดินหน้าจัดโปรโมชันที่หลากหลายหมุนเวียนกันไป โดยเชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้แน่นอน
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน Sizzler มีลูกค้าประจำที่เข้ามารับประทานในร้านอยู่แล้ว เพียงแต่การสมัครเป็นสมาชิกยังถือว่าไม่มากนัก จึงได้จัดโปรโมชันสลัดบาร์ราคา 159 บาทสำหรับสมาชิก ซึ่งสามารถสมัครได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ท้ายที่สุด กรีฑากรย้ำว่า “สิ่งสำคัญเราต้องโฟกัสที่ลูกค้าเป็นหลัก ชอบรับประทานอะไร ชอบสั่งอะไร และเมนูไหนสามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้ Sizzler ก็จะทำ”
ปัจจุบัน Sizzler มีทั้งหมด 59 สาขา ลูกค้าหลัก 90% เป็นคนไทย และต่างชาติ 10% และมีแผนขยายสาขาทั้งร้านขนาดใหญ่และร้านขนาดเล็กให้ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
ทั้งนี้ก็เพื่อรองรับกับการฟื้นตัวของธุรกิจร้านอาหารที่มีทราฟฟิกเพิ่มขึ้น ไม่เพียงแต่วันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น แต่วันธรรมดา วันจันทร์ถึงศุกร์ ร้านอาหารในศูนย์การค้าเริ่มมีความคึกคัก ขณะที่ผู้บริโภคก็มีการใช้จ่ายเฉลี่ยภายในร้านมากขึ้นเช่นกัน