ในกีฬาโอลิมปิก 2020 “โตเกียวเกมส์” สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้โควตาส่งนักกีฬาร่วมแข่งขัน 2 คนด้วยกัน
คนแรกที่คว้าโควตาโอลิมปิกให้กับทีมกรีฑาไทย คือ คีริน ตันติเวทย์ นักวิ่งลูกครึ่งไทย-สหรัฐฯ ในอีเวนต์วิ่ง 10,000 เมตรชาย ที่ทำสถิติผ่านเกณฑ์คัดเลือกได้อย่างยอดเยี่ยม ในระหว่างลงทำศึกในรายการเดอะเทนที่แดนมะกัน ด้วยสถิติ 27 นาที 17.14 วินาที เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พร้อมกับกลายเป็นสถิติประเทศไทย ซึ่งเร็วกว่าสถิติคัดเลือกโอลิมปิก ที่ถูกตั้งไว้ 27 นาที 28.00 วินาที
ส่วนอีกคนก็คือ “เบญ” สุเบญรัตน์ อินแสง นักขว้างจักรสาวไทย ที่ได้ตั๋วลุยโอลิมปิก ในโควตาอันดับโลก พร้อมกับได้สิทธิ์ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์เป็นครั้งที่ 2 ต่อจากรีโอเกมส์ 2016
แม้จะได้ตั๋วไปชิงชัยมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ ณ ดินแดนอาทิตย์อุทัย แต่สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมชาชูปถัมภ์ ต่างรู้ดีว่า สถิติของทั้งคู่ ยังเป็นรองคู่แข่งจากชาติอื่นเยอะมาก จึงตั้งเป้าให้ทั้ง คีริน กับ สุเบญรัตน์ ทำสถิติให้ดีที่สุด เพื่อต่อยอดไปสู่การคว้าเหรียญรางวัล จากการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 19 ณ เมืองหางโจว ประเทศจีนในปีหน้า
และนักกรีฑาไทยทั้ง 2 ต่างหมายมั่นปั้นมือ ที่จะทำลายสถิติประเทศไทยของตัวเองลงให้จงได้ เพื่อสร้างความมั่นใจ ก่อนลุยศึกใหญ่ในปีถัดไป ทว่าเมื่อถึงเวลาแข่งขันจริง ผลงานกลับไม่เป็นใจ
เริ่มจาก คีริน ตันติเวทย์ เจ้าของ 2 เหรียญทองซีเกมส์ 2019 ได้ลงชิงชัยโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรกของเจ้าตัวเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 64 ปรากฏว่า คีริน ทำสถิติได้เพียง 29 นาที 1.92 วินาที เข้าอันดับ 23 จากนักกีฬาทั้งหมด 25 คน แถมยังโดนวิ่งน็อกรอบอีกต่างหาก และยังวิ่งช้ากว่าสถิติประเทศไทย ที่ตัวเองทำไว้กว่า 2 นาที
หลังการแข่งขัน คีริน ที่ซ้อมที่ประเทศสหรัฐอเมริกามาโดยตลอด ได้ออกมากล่าวยอมรับว่า ผิดหวังกับผลงานของตัวเอง แต่เหตุผลสำคัญที่ทำให้ผลงานโอลิมปิกในครั้งนี้ไม่ดี อันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่ร้อนของกรุงโตเกียว ที่มีอุณหภูมิสูงถึง 85 องศาฟาเรนไฮต์(ประมาณ 30 องศาเซลเซียส)
ตอนที่ตนเองซ้อมที่สหรัฐอเมริกา อากาศไม่ได้ร้อนขนาดนี้ พอต้องมาแข่งขันในสภาพอากาศที่ร้อน จึงทำสถิติได้ไม่ดีอย่างที่ตั้งใจไว้ นักกรีฑาหนุ่มวัย 24 กล่าว
และสิ่งที่ คีริน อ้างในครั้งนี้ ดูเหมือนจะเป็นเหตุผลที่แท้จริง เพราะนักวิ่งคนอื่น ต่างมีสถิติสุดขี้เหร่เหมือนกันทุกคน โดยเจ้าของเหรียญทองอย่าง เซเรม่อน บาเรก้า จากเอธิโอเปีย วิ่งได้เพียง 27 นาที 43.22 วินาที นับเป็นเวลาที่ช้ากว่าสถิติประเทศไทยของ คีริน เสียอีก(27 นาที 17.14 วินาที)
นักกรีฑาหนุ่มไทยลูกครึ่งสหรัฐฯได้กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะกลับไปฟิตซ้อมให้ดี เพื่อทำผลงานให้ดีขึ้น โดยเฉพาะ 2 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในปีหน้าอย่าง กรีฑาชิงแชมป์โลก 2022 ที่รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงเอเชียนเกมส์ 2022 ที่นครหางโจว ประเทศจีน และหวังว่าโอลิมปิก 2024 ในอีก 3 ปีข้างหน้าที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จะสามารถคว้าโควตากลับไปแข่งขันอีกครั้ง
ด้าน สุเบญรัตน์ อินแสง ที่ฟิตร่างกายอย่างเต็มที่จนน้ำหนักตัวลดลงถึง 28 กิโลกรัม ตั้งเป้าที่จะทำลายสถิติประเทศไทยของตัวเอง(61.97 เมตร) ที่เคยทำไว้เมื่อ 3 ปีก่อนเช่นกัน
แต่ในการแข่งขันขว้างจักรหญิงรอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 64 ทำได้ 59.23 เมตร รั้งอันดับ 18 จากนักกีฬาทั้งหมด 31 คน ไม่เพียงพอที่จะติดท็อป 12 เพื่อผ่านเข้าไปแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ
อย่างไรก็ตามสถิติดังกล่าว นับเป็นสถิติที่ดีที่สุดในปีนี้ ของนักขว้างจักรสาววัย 27 ปีจากสุราษฎร์ธานี
เจ้าของแชมป์ขว้างจักรหญิงในกีฬาซีเกมส์ 5 สมัยหลังสุดได้กล่าวอีกว่า ได้เห็นข้อผิดพลาดทั้งในเรื่อพละกำลังและเทคนิคและอีกหลายด้าน จากนี้จะกลับไปพัฒนาตัวเอง เพื่อเตรียมตัวลงแข่งเอเชียนเกมส์ 2022 ที่จีน รวมถึง ซีเกมส์ 2023 ที่กัมพูชา และได้ตั้งเป้าที่จะกลับมาแข่งโอลิมปิกอรกครั้งในอีก 3 ปีข้างหน้า