กกท. แถลงข่าววิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลกรายการ “Amazing Thailand Marathon Bangkok presented by TOYOTA” ***
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานแถลงข่าวความพร้อมในการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก รายการ “Amazing Thailand Marathon Bangkok presented by TOYOTA” ครั้งที่ 4 ประจำปี 2564
โดยมี นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย, พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล, นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย, นายสุชาติ แจสุรภาพ สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, นายกอบเกียรติ แสงวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยแลนด์ไตรลีก และคณะผู้บริหาร ร่วมงาน ณ ห้องประชุม ชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา กกท. เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สำหรับการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก “Amazing Thailand Marathon Bangkok presented by TOYOTA” ครั้งที่ 4 ประจำปี 2564 จัดขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน รวมถึงเหล่านักวิ่ง อาสาสมัคร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มาร่วมดำเนินการจัดการแข่งขัน ให้ประสบความสำเร็จด้วยดี และยังเป็นการส่งเสริม สนับสนุนกลุ่มผู้รักการออกกำลังกาย ให้หันมาใส่ใจในสุขภาพของตัวเอง ซึ่งถือเป็นภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นการประกาศไปทั่วโลกว่าประเทศไทยสามารถที่จะจัดงานอีเว้นท์ระดับโลกได้ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
โดยการจัดงานอีเว้นท์ครั้งนี้เป็นการร่วมมือ ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย, กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร, กองบัญชาการตำรวจนครบาล, สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ, ไทยแลนด์ไตรลีก, บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด
ซึ่งจะจัดการแข่งขันเพื่อชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จำนวน 2 ถ้วย, ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี จำนวน 2 ถ้วย และถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา จำนวน 4 ถ้วย และถ้วยรางวัลอื่นๆอีก 200 รางวัล พร้อมเงินรางวัลรวม 1,729,500 บาท ซึ่งจะปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดฯ อย่างเคร่งครัด โดยจะใช้สถานที่ตรวจ ATK และรับอุปกรณ์การแข่งขันที่ พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 11.00 – 19.00 น.
นอกจากการตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวดแล้ว ยังได้กำหนดแนวทางปฏิบัติด้านสาธารณสุข ตามมาตรการ Covid Free Setting ภายใต้ข้อกำหนดของ ศบค. รวมถึงแนวทางการปฏิบัติเพื่อสื่อสารกับนักวิ่งทั้งก่อน ระหว่าง และหลัง การแข่งขัน ซึ่งในปีนี้กำหนดจัดงานแข่งขัน 2 วัน ในวันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 แข่งระยะ 10 กม. และระยะ 5 กม. จุดเริ่มต้น ณ โลหะปราสาท ถนนราชดำเนิน มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 7,000 คน และวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 แข่งระยะ 42 กม. และระยะ 21 กม. จุดเริ่มต้น ณ ราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 13,000 คน พร้อมเตรียมผลักดันให้รายการนี้ได้ขึ้นแท่นเป็นมาราธอนแห่งเอเชียในครั้งต่อไปด้วย
รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีการแข่งขันมาราธอนเพียง 3 รายการ ที่ได้รับการรับรองจาก World Athletics ซึ่งทั้ง 3 รายการนี้ กกท. ได้มีส่วนร่วมในการผลักดันทั้งหมด โดยในแต่ละรายการ ก็มีจุดขายที่แตกต่างกันไป อาทิ บุรีรัมย์มาราธอน จุดเด่น คือ การมีส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่น ทำให้สร้างเสน่ห์ของเมืองจนสามารถดึงดูดนักวิ่งจากทั่วประเทศได้ ส่วนรายการ Amazing Thailand Marathon Bangkok ก็มีจุดเด่นในระดับโลก นั่นคือ เป็นมาราธอนที่จัดขึ้นในเมืองหลวง ซึ่ง ณ ปัจจุบัน การจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนในเมืองหลวง ถือว่าเป็นงานที่มีความยากเป็นอย่างมาก หากสามารถจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนในเมืองหลวงให้ได้ตามมาตรฐานการจัดงานของ World Athletics อย่างต่อเนื่อง ก็จะมีนักวิ่งจากทั่วโลกให้ความสนใจ เดินทางมาร่วมการแข่งขันเป็นจำนวนมากในอนาคตอย่างแน่นอน ดังนั้นรายการ “Amazing Thailand Marathon Bangkok presented by TOYOTA” ครั้งที่ 4 ประจำปี 2564
ในครั้งนี้ มีเป้าหมาย คือ การผลักดันให้เกิดการจัดกิจกรรมกีฬาส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อสร้างเศรษฐกิจของประเทศ หรือ Sports Tourism และสำหรับรายการนี้ กกท. ให้การสนับสนุนด้านฝ่ายเทคนิคการแข่งขัน อาทิ การจับเวลา ผลการแข่งขัน และควบคุมสารกระตุ้น (Doping Control) โดยทำงานควบคู่ไปกับสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของสมาคมกรีฑาโลก ที่จัดตามมาตรฐานสากล โดยจะใช้ ราชมังคลากีฬาสถาน เป็นสถานที่ในการปล่อยตัว ซึ่งถือว่าเป็น “ไฮไลท์” ประจำการแข่งขันรายการนี้ และสมาคมกรีฑาโลกกำลังพิจารณาให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานของสมาคมกรีฑาโลก 2 งานใหญ่ในปีนี้ คือ การจัดการประชุมสัมมนาของสมาคมกรีฑาโลก World Athletics Global Summit 2022 ในช่วงปลายปี
นอกจากนี้ประเทศไทย ยังได้รับเกียรติสูงสุดในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวิ่งเทรลชิงแชมป์โลก World Mountain and Trail Running Championships ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งทั้งสองกิจกรรมระดับโลกนี้ ทาง World Athletics จะมีการประกาศไปทั่วโลก เพื่อแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของประเทศไทยในการจัดการแข่งขัน และหวังอย่างยิ่งว่าประเทศไทยจะเป็นต้นแบบ และแบบอย่างให้กับทุกประเทศทั่วโลก พร้อมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจด้านกีฬาในประเทศไทยให้เติบโตยิ่งขึ้นต่อไป