เผยแพร่: ปรับปรุง:
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เหมาคนเดียวสองประตู ดวลกับ ลิโอเนล เมสซี ที่ทำ 1 ประตู ไป 60 นาที “เปแอสเช” ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เฉือนเอาชนะ ริยาด ออลสตาร์ ในเกมอุ่นเครื่องนัดพิเศษไปแบบสุดมัน 5-4 ที่ซาอุดิอาระเบีย
เกมฟุตบอลอุ่นเครื่องนัดพิเศษ ณ คิง ฟาฮัด อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดียม ประเทศซาอุดิอาระเบีย วันที่ 19 มกราคม 2566 ระหว่าง ริยาด ออสตาร์ ทีม ที่มาจากส่วนผสมของ 2 สโมสรในกรุงริยาด อย่าง อัล นาสเซอร์ และอัล ฮิลาล พบ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง มหาเศรษฐีจากลีกเอิง ฝรั่งเศส
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หัวหอกชาวโปรตุกีส แข้งใหม่ป้ายแดงของทีมอัล นาสเซอร์ ออกสตาร์ท 11 คนแรก พร้อมกับสวมปลอกแขนกัปตันทีม ประสานงานในเกมรุกร่วมกับ มุสซ่า มาเรกา, ซาเล็ม อัล ดอว์ซารี และกอนซาโล มาร์ติเนซ
ด้าน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ภายใต้การคุมทีมของ คริสตอฟ กัลติเยร์ ส่ง 3 ซูเปอร์สตาร์ประสานงานในเกมรุก ทั้ง ลิโอเนล เมสซี, เนย์มาร์ และคีเลียน เอ็มบัปเป้ โดยมี เซร์คิโอ รามอส สวมปลอกแขนกัปตันทีมคุมแนวรับร่วมกับ มาร์ควินญอส
เริ่มเกมไปเพียง 3 นาที เปแอสเช ได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะที่ เนย์มาร์ งัดบอลให้ ลิโอเนล เมสซี หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนยิงบอลลอดตัวผู้รักษาประตูของทีมรวมดาราริยาดเข้าไป
น.34 ริยาด ออลสตาร์ มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เคย์เลอร์ นาบาส ออกมาชกบอลไม่โดน แต่ไปโดนหน้าของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แทน ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองให้นายทวารเปแอสเชพร้อมชี้เป็นจุดโทษ ศูนย์หน้าทีมชาติโปรตุเกสลุกขึ้นมาสังหารไม่พลาด รวมดาราริยาด ตีเสมอ 1-1
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 39 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ต้องเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ ฆวน เบอร์นัต ไปทำฟาวล์ตัดเกมใส่ ซาเล็ม อัล ดอว์ซารี ที่กำลังจะหลุดเดี่ยว ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที
ถึงแม้จะเหลือ 10 คน แต่ เปแอสเช ก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 ในนาทีที่ 43 จากจังหวะที่ คีเลียน เอ็มบัปเป้ เปิดบอลให้ มาร์ควินญอส วิ่งมาโฉบโหม่งเปลี่ยนทางหนีมือนายทวารของทีมริยาด ออลสตาร์ เข้าไป
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.45+6 ทีมรวมดาราริยาด มาได้ประตูไล่ตามตีเสมอ 2-2 จากจังหวะที่ ซาอัด อับดุลฮามิด เปิดไปให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โหม่งเช็ดบอลไปชนเสา ก่อนเด้งมาเข้าทางเจ้าตัวซ้ำดาบสองด้วยซ้ายไม่พลาด และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง เปแอสเช ที่เหลือตัวผู้เล่นน้อยกว่า ได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 ในนาทีที่ 53 จากจังหวะที่ คีเลียน เอ็มบัปเป้ โชว์ทักษะหลอกล่อแนวรับคู่แข่งหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนปาดเข้ากลางให้ เซร์คิโอ รามอส ชาร์จเข้าไปง่ายๆ
โดนนำเพียงแค่ 3 นาที น.56 ริยาด ออลสตาร์ ก็มาตามตีเสมอ 3-3 จากจังหวะลูกเตะมุม กอนซาโล มาร์ติเนซ เปิดให้ จัง ฮยอน-ซู วิ่งโฉบมาโหม่งที่เสาแรกเข้าประตูไป
น.58 ปารีสฯ มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ ลิโอเนล เมสซี ยิงบอลไปโดนแขนของ อาลี อัล โบลาฮี ผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่าให้ลูกโทษทันที และเป็น คีเลียน เอ็มบัปเป้ ซัดเข้าไป “เปแอสเช” นำ 4-3
นาทีที่ 60 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หัวหอกชาวโปรตุกีส ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม เช่นเดียวกับฝั่ง เปแอสเช ที่เปลี่ยนตัวหลักออกแทบยกชุด โดยส่งเหล่าดาวรุ่งลงสนามสัมผัสบรรยากาศหลายคน
น.78 ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้ประตูหนีห่าง 5-3 จากเกมสวนกลับ ฮูโก เอกิติเก กองหน้าดาวรุ่งวัย 20 ปี หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนยิงผ่านมือผู้รักษาประตูของริยาด ออลสตาร์ เข้าไป
ท้ายเกมช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.90+4 แอนเดอร์สัน ทาลิสกา หัวหอกชาวบราซิเลียน ยิงไกลนอกกรอบบอลหนีมือ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เข้าประตูไปแบบสุดสวย ริยาด ออลสตาร์ ตีตื้นมาเป็น 4-5
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแแข่งขัน 90 นาที ปารีส แซงต์ แชร์กแมง บุกมาเอาชนะ ริยาด ออลสตาร์ ถึงกรุงริยาด ประเทศซาอุดิอาระเบีย ด้วยสกอร์ 5-4