“เบนนี แม็คคาร์ธี” โค้ชกองหน้า ไอเท็มลับ “แมนฯ ยู” กู้ฟอร์ม “แรชฟอร์ด” สู่ยอดดาวยิง
เผยแพร่: ปรับปรุง:
ท่ามกลางบรรยากาศเสียงสะท้อนรอบๆ สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ กองเชียร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะได้ยินชื่อ เบนนี แม็คคาร์ธี อดีตศูนย์หน้าชาวแอฟริกาใต้
เหตุการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก เวลาสตาฟฟ์คนหนึ่งของสโมสรได้รับการยกย่องเช่นนี้ แต่ แม็คคาร์ธี ไม่ใช่โค้ชฝีมือธรรมดาๆ
แม็คคาร์ธี วัย 45 ปี ได้รับเครดิตอย่างมหาศาล หลังคืนชีพ มาร์คัส แรชฟอร์ด นับตั้งแต่ร่วมงาน เอริก เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
แหล่งข่าวเน้นย้ำว่า แม็คคาร์ธี เป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งของทีม เทน ฮาก ซึ่งถูกดึงเข้ามาเพื่อพัฒนาฝีเท้ากองหน้าโดยเฉพาะ จึงไม่ต้องสงสัยว่าเขาเป็นคนๆ หนึ่งที่มีผลต่อฟอร์มอันร้อนแรงของ แรชฟอร์ด
หัวหอกวัย 25 ปี เหมา 2 ประตู เกมเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี 3-0 วันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 ก.พ.) ขยับสถิติเป็นยิง 24 ประตู ทุกรายการ รวม 16 ประตูจาก 17 เกมล่าสุด
เซสชันแบบตัวต่อตัวกับ แม็คคาร์ธี สร้างความมั่นใจแก่ แรชฟอร์ด มากยิ่งขึ้น ทั้งการเล่นกองหน้าทางตรง และลูกโหม่งซึ่งส่งผลให้เจาะตาข่าย ลีดส์ ยูไนเต็ด และ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด อย่างคมกริบ
กองหน้าดีกรีทีมชาติอังกฤษ เผยไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายน “แน่นอนเขาช่วยผมได้เยอะมาก การมีโค้ชสายเกมรุกเป็นผลดีต่อเรา เขาพร้อมให้คำปรึกษาแก่เราเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้”
เจดอน ซานโช นักเตะ ยูไนเต็ด อีกคนหนึ่ง ซึ่งยิงประตูได้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 ก.พ.) ขอฝึกซ้อมแบบตัวต่อตัวกับ แม็คคาร์ธี หลังหายหน้าหายตาจากสโมสรช่วงปีใหม่ และ อองโตนี มาร์กซิยาล ให้ความสำคัญต่อคำแนะนำของโค้ชเช่นกัน
เทน ฮาก อธิบายการตัดสินใจดึง แม็คคาร์ธี เข้าสู่ทีมสตาฟฟ์ “สตาฟฟ์ของเรามีกองหลังกับกองกลางอยู่หลายคน ผมต้องการหาสมดุล เขาเป็นโค้ชสายเกมรุก เนื่องจากเขาเป็นอดีตกองหน้า และจุดนั้นเป็นงานเฉพาะทางของทีมด้วย”
“ผมไม่เคยเล่นกองหน้า ดังนั้นผมโชคดีที่มีใครบางคนในทีมสตาฟฟ์ของผมเคยเล่นมาก่อน ฟุตบอลตัดสินด้วยการทำประตู คุณมีผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันประตู แต่คุณก็ต้องมีผู้เชี่ยวชาญเกมรุก และเรามีโค้ชที่สามารถสอนการจบสกอร์โดยเฉพาะ”
แม็คคาร์ธี พูดได้ 4 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ, ดัตช์ (เนเธอร์แลนด์ส), สแปนิช และ โปรตุกีส ทำให้เขาสามารถสื่อสารกับนักเตะ ยูไนเต็ด ได้ทุกคน เป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งสำหรับนักเตะสายพเนจร ซึ่งเริ่มต้นอาชีพที่บ้านเกิด เมืองเคป ทาวน์ แล้วย้ายไป อาแจ็กซ์, เซลตา บิโก และ เอฟซี ปอร์โต ซึ่งไฮไลท์สำคัญ คือ ยิง 2 ประตู เขี่ย แมนฯ ยูไนเต็ด ตกรอบรองชนะเลิศ แล้วคว้าแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ปี 2004
แม็คคาร์ธี รับใช้ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 140 เกม ยิง 52 ประตู คว้ารองดาวซัลโว พรีเมียร์ ลีก ปี 2007 ถัดจาก ดิดิเยร์ ดร็อกบา กองหน้าระดับตำนาน เชลซี ก่อนเผชิญช่วงเวลาอันน่าผิดหวัง ที่เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด
แม็คคาร์ธี ติดทีมชาติ 79 นัด เป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของ แอฟริกาใต้ 31 ประตู เขาปฏิเสธงานคุมทีมชาติ เมื่อปี 2022 เพื่ออบรมโค้ช ที่ไอร์แลนด์เหนือ กระทั่งจบคอร์ส และเริ่มคุมทีม เคป ทาวน์ ซิตี และอมาซูลู ที่ประเทศแอฟริกาใต้
ขณะที่ เทน ฮาก มองหาโค้ชกองหน้า หลังไม่สามารถทาบทาม โรบิน ฟาน เพอร์ซี จาก เฟเยนูร์ด กลับสู่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เอเยนต์ของ แม็คคาร์ธี ขอนัดพูดคุยกับผู้จัดการทีม และ จอห์น เมอร์ทัฟ ผู้อำนวยการฟุตบอล
เอเยนต์นำเสนอว่า แม็คคาร์ธี เข้าใจปรัชญาลูกหนังของ เนเธอร์แลนด์ส สมัยค้าแข้งที่อาแจ็กซ์, คุ้นเคยกับ พรีเมียร์ ลีก และมีโปรไฟล์ที่ดีด้านการพัฒนาศักยภาพผู้เล่น
แม็คคาร์ธี ถูกทดสอบด้วยการคุมซ้อม ยูไนเต็ด ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี (U23) 2-3 เซสชัน ที่คาร์ริงตัน ภายใต้การสังเกตของ เทน ฮาก และทีมงาน ก่อนได้รับข้อเสนอแบบฟูล-ไทม์ (งานประจำ) ขณะสโมสรทัวร์พรีซีซัน ซัมเมอร์ที่แล้ว และเข้าใจว่าเขาไม่ได้สอบถามเกี่ยวกับค่าจ้างเลยก่อนตอบรับ
แม็คคาร์ธี ซึ่งมีลูกสาวกับลูกชายอย่างละ 1 คน กับ สเตซีย์ ภรรยาชาวสกอต และลูกสาว 3 คน กับ มาเรีย อดีตภรรยา กลับมาตั้งถิ่้นฐานย่านตอนใต้ของเมืองแมนเชสเตอร์ที่เขาคุ้นเคย สมัยค้าแข้งกับ แบล็คเบิร์นฯ
“ผมต้องการช่วยนักเตะหนุ่มๆ เหล่านี้, ผลักดันพวกเขา, เปลี่ยนทัศนคติพวกเขา และสร้างความแตกต่างแก่ ยูไนเต็ด ซีซันนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งซีซันนี้เราจะคืนชีพ ยูไนเต็ด อย่างสมบูรณ์” แม็คคาร์ธี ทิ้งท้าย