เผยแพร่: ปรับปรุง:
คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”
เจ้าเก่งอาบน้ำอาบท่าเสร็จสรรพหลังจากออกรอบ เดินมารอหัวหน้าก๊วนในห้องอาหาร พลางควักคอตต้อนบัดออกมา2อัน ปั่นหูเล่นอย่างเมามัน นัยว่าทำความสะอาดหูหลังอาบน้ำสระผมเป็นกิจวัตรประจำของมัน คราวนี้พี่หมอมาทันเห็นพอดี “ทำไรว๊ะเก่ง?” “ทำความสะอาดหูครับพี่หมอ” “อันตราย! ต่อไปห้ามทำนะ” “อ้าว! แล้วมันเปียกมันคัน แล้วพี่หมอให้ทำยังไงล่ะครับ”
การปั่นหรือเช็ดรูหู ขณะรูหูเปียก โดยใช้ไม้พันสำลี ผ้า กระดาษทิชชู หรือนิ้วมือ ทำให้เกิดโรคขี้หูอุดตัน รูหูอักเสบเป็นฝีและเกิดเชื้อราในหูได้ ซึ่งโดยปกติผิวหนังชั้นนอกสุดของคนเราจะตายตามอายุ และจะหลุดออกเป็นขุยเล็กๆมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น และเมื่อผิวหนังเปียกน้ำแล้วเอามือไปขัดถู ผิวหนังที่ตายหมดอายุจะลอกออกมาเป็นขี้ไคลในรูหู แต่ถ้าหลังอาบน้ำหรือสระผมแล้วเราใช้ไม้พันสำลี ผ้า กระดาษทิชชู หรือนิ้วไปเช็ดหมุนที่ปากรูหู หรือในรูหู ขี้ไคลจะหลุดดันเข้าไปในรูหูวันละเล็กวันละน้อย อัดเข้าไปในรูหูจนกลายเป็นขี้หูแน่นขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเมื่อน้ำเข้ารูหูจะทำให้ขี้หูพองบวมแล้วทำให้หูอื้อเพิ่มขึ้น บางคนที่ชอบหมุนอัดขี้หูทำให้ขี้หูแน่นขึ้นทุกวันๆ อาจทำให้รูหูข้างในถูกดันให้กว้างมากยิ่งขึ้น หรือบางคนอาจเพลินปั่นเช็ดรูหูจนแรงเกินไปทำให้เกิดแผลถลอกน้ำเหลืองไหล โดยเข้าใจว่าเช็ดน้ำไม่หมดก็เลยยิ่งเช็ดซ้ำอีก ทำให้แผลถลอกมากขึ้นมีน้ำเหลืองไหลออกมามากขึ้นจนเปียกหมอนเวลานอน แผลที่ถลอกทำให้เจ็บรูหู และอาจเกิดการอักเสบบวมติดเชื้อเป็นฝีได้ นอกจากนี้ยังมีอาการปวดตุ๊บๆในหูและหูอื้อเมื่อเคี้ยวอาหาร รู้สึกปวดเมื่อนอนทับหรือจับต้องใบหู ส่วนน้ำเหลืองที่ไหลจะทำให้ติดเชื้อราได้ง่าย และกลิ่นคาวของน้ำเหลืองในรูหูก็จะดึงดูดแมลงสาบให้เข้าหูได้อีกด้วย
การรักษา ถ้ามีแต่ขี้หูอุดตัน จะเอาขี้หูออกโดยใช้ยาชา10%xylocaineพ่น ทำให้อาการเจ็บแก้วหูจากรอยถลอกน้อยลง และช่วยให้ขี้หูชุ่มไม่แห้งแข็ง ทำให้สามารถใช้Suctionขนาดที่เหมาะสมดูดขี้หูออกมาได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าขี้หูแข็งติดแน่นมากเอาไม่ออกหรือรูหูบวมอักเสบ อาจให้ยาละลายขี้หูไปหยอดให้เต็มรูหู และถ้าไม่ปวดมากอาจใช้เทคนิกกดกระดูกอ่อนหน้าใบหู ปั๊มเพื่อให้ยาแทรกลงไป ทำให้ขี้หูลึกๆด้านในนิ่มขึ้นจนสามารถดูดได้หมดและง่ายขึ้น แต่ถ้าขี้หูเป็นชิ้นบางๆ จะใช้เครื่องมือเป็นปากคีบ(Alligator ear forcep) คีบออกได้
ถ้ารูหูอักเสบหรือเป็นฝี จะให้ยาปฏิชีวนะ เช่น Dicloxacillin แต่ถ้าแพ้ให้เปลี่ยนไปใช้ Clindamycin หรือยาอื่นแทน ถ้ารูหูอักเสบเป็นเชื้อราต้องเอาเชื้อราออกให้หมด แล้วจะจ่ายยาฆ่าเชื้อราให้ไปหยอด1สัปดาห์ และยากินแก้คันหูอีก1-2สัปดาห์ด้วย
การป้องกัน คือห้ามใช้ทั้งไม้พันสำลี กระดาษทิชชู ผ้า หรือนิ้วมือ เช็ด ปั่น หรือแคะในรูหูเป็นอันขาด ให้ใช้แชมพูสระผมซึ่งล้างไขมันได้ดีล้างทำความสะอาดใบหู ปากรูหู และรอบบริเวณ แล้วเช็ดให้แห้งโดยใช้ผ้าเฉพาะใบหูเท่านั้น ปล่อยปากรูหูและรูหูให้แห้งเอง เท่านี้ก็จะไม่เกิดขี้หู หรือหูอักเสบ เป็นฝี หรือเป็นเชื้อราอีกต่อไป
ถ้าคันหูหรือคันในรูหูให้กินยาแก้คัน หรือถ้าคันมากให้ใช้ยาทาแก้คันแตะๆแต้มๆในรูหู ไม่ควรแคะหรือปั่นหูเพราะอาจทำให้เกิดแผลถลอก เกิดการอักเสบได้…(ขอบคุณข้อมูลจาก นพ.สุทธิศักดิ์ วุฒิพันธ์เรืองชัย)