เผยแพร่: ปรับปรุง:
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมเศรษฐีรายใหม่ในวงการฟุตบอลโลกแล้ว ภายหลังการเข้าเทคโอเวอร์ของกลุ่มทุนจากซาอุดิอาระเบีย และสิ่งที่แฟนบอลสนใจก็คือพวกเขาจะซื้อใครมาเสริมทัพบ้างในช่วงตลาดซื้อขายปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง
“สาลิกาดง” ยุคเศรษฐี มีข่าวกับนักเตะชื่อก้องโลกมากมายทั้ง ราฮีม สเตอร์ลิง, อารอน แรมซีย์, ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ก, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อองโตนี มาร์กซิอาล, แกเร็ธ เบล, เอดินสัน คาวานี ฯลฯ และทำให้สาวก “ทูน อาร์มี่” เฝ้าฝันว่าพวกเขาจะได้ซูเปอร์สตาร์ ใครสักคนมาร่วมแก๊งค์
แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น ชวนมาส่องดูบรรดาทีมเศรษฐีระดับโลกอย่าง เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ย้อนดูกันสักหน่อยว่าปีแรกที่พวกเขาได้เจ้าของทีมคนใหม่ระดับร่ำรวย พวกเขาวอดวายซื้อนักเตะคนไหนมาร่วมทีมบ้าง
เชลซี
“สิงห์บลูส์” ยุคของ โรมัน อับราโมวิช เสี่ยหมีจากรัสเซีย ยกระดับทีมดังแห่งลอนดอนด้วยการกว้านซื้อนักเตะชั้นยอด อาทิ เฮอร์นัน เครสโป, ดาเมียน ดัฟฟ์, ฮวน เซบาสเตียน เวรอน, โคลด มาเกเลเล่, อาเดรียน มูตู, เวย์น บริดจ์, เฌเรมี, โจ โคล, เกล็น จอห์นสัน, อเล็กเซย์ สเมอร์ติน และ สกออต์ ปาร์คเกอร์ รวมแล้วปีแรกพวกเขาเสียเงินไปทั้งสิ้น 170 ล้านยูโร (ประมาณ 6,530 ล้านบาท)
แมนเชสเตอร์ ซิตี
“เรือใบสีฟ้า” ที่ร่ำรวยไม่แพ้กันจากการเข้าเทคโอเวอร์ของ ชีค มันซูร์ หว่านเม็ดเงินซื้อนักเตะซีซั่นแรกไปถึง 157 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6,030 ล้านบาท) อันประกอบด้วย โรบินโญ่, โช, ฌอน ไรท์-ฟิลิปป์ส, พาโบล ซาบาเลต้า, แวงซองต์ กอมปานี, ทัล เบน ฮาอิม, เชย์ กิฟเวน, เคร็ก เบลลามี, เวย์น บริดจ์ และ ไนเจล เดอ ยอง ซึ่งก็ใช้เวลาพอสมควรกว่าจะสร้างทีมจนแข็งแกร่งและประสบความสำเร็จได้แชมป์รายการใหญ่
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
ปี 2011 เปแอสเช กลายเป็นทีมเศรษฐีจากเม็ดเงินของกลุ่มทุน กาตาร์ สปอร์ตส อินเวสต์เมนต์ คนแรกที่ซื้อมาคือ ฮาเวียร์ ปาสตอเร่ ตัวรุกจาก ปาแลร์โม่ ราคา 42 ล้านยูโร (ประมาณ 1,613 ล้านบาท) แม้จะเป็นคนเดียวที่ย้ายมาเพราะตอนนั้นทีมไม่ดังมาก แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็กวาดนักเตะบิ๊กเนมเข้าทีมได้อีกหลายปีต่อมา ด้วยชื่อเสียงและความสำเร็จที่เพิ่มพูนขึ้นตามลำดับ