เผยแพร่: ปรับปรุง:
คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
ถือเป็นนักชกที่โลดแล่นอยู่บนสังเวียนมวยโลกมายาวนานอีกราย “นวพล นครหลวงโปรโมชั่น” นักชกวัย 31 ที่ปัจจุบันเป็นรองแชมป์โลกอันดับ 2 ในรุ่นแบนตั้มเวทของสภามวยโลก WBC ล่าสุดได้รับโอกาสขึ้นชกไฟต์ “ตัดเชือก” กับรองแชมป์โลกอันดับ 1 เจสัน โมโลนี่ย์ นักชกออสเตรเลียวัยเดียวกัน โดยจะขึ้นชกเป็นคู่รองในศึกมวยโลก เดวิน เฮนี่ย์ ปะทะ จอร์จ คัมโบโซส จูเนียร์ “ภาค 2” ที่สังเวียน ร็อด เลเวอร์ อารีน่า ในกรุงเมลเบิร์น ออสเตรเลีย เช้าวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ (16 ต.ค.) เวลาประมาณ 7:45 น. ตามเวลาบ้านเรา ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ถ่ายทอดสดให้แฟนมวยชาวไทยได้รับชมซะด้วย
นักชกไทยนั้นชกมวยอาชีพมาตั้งแต่ปี 2009 โน่น คือชกมา 13 ปีแล้ว ไฟต์แรกก็เสมอกับ “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษซะด้วย โดยตอนนั้น “เจ้าแหลม” ก็กำลังเป็นมวยสร้างเหมือนกัน ชก 2 ไฟต์แรกแพ้ไม่ครบยกทั้ง 2 ไฟต์ มาเจอกับนวพลในไฟต์ที่ 3 นี้และก็เสมอกันไป จากนั้นนวพลก็เดินหน้าชกมาจนล่าสุดสถิติชก 54 ชนะถึง 52 (น็อก 42) เสมอ 1 (คือเสมอศรีสะเกษ) และแพ้แค่ไฟต์เดียว โดยไฟต์ที่แพ้นั้นพ่ายให้กับ ฮวน นาวาเร็ตเต้ นักชกเม็กซิกันเมื่อปี 2017 หรือ 5 ปีมาแล้ว ในการชกที่บ้านเรานี่เอง ไฟต์นั้นนักชกไทยได้โอกาสชิงแชมป์โลก “ว่าง” ในรุ่นฟลายเวท แต่โดนทิ่มคาคอกแค่ยก 3
ส่วนคู่ชก เจสัน โมโลนี่ย์ นั้นอายุเท่ากัน แต่เพิ่งเริ่มชกเมื่อปี 2014 นี่เอง ชกมาได้ 26 ไฟต์ ชนะ 24 (น็อก 19) แพ้คะแนน 1 แพ้น็อก 1 โดยไฟต์ที่แพ้น็อกนั้นแพ้ให้กับ “มอนสเตอร์” นาโอยะ อิโนะอุเอะ ราชาน็อกเอ๊าท์ชาวญี่ปุ่น เมื่อปี 2020 ไฟต์นี้ต้องยอมรับว่าแม้นักชกไทยจะยืนระยะบนสังเวียนมวยโลกมามากกว่า แต่เป็นรองเขาเยอะ เพราะที่ผ่านมาเราชกแต่ในบ้าน ไม่เคยไปชกนอกบ้านเลย น่าจะมีอาการตื่นเต้นและมีปัญหาในการปรับตัวพอสมควร ที่ชกๆ อุ่นเครื่องอยู่ในบ้านก็เจอแต่นักมวยที่ “ส่องกล้อง” เลือกสรรมาแล้วทั้งนั้น มวยใหม่ชกมาไม่กี่ครั้งบ้าง มวยที่แพ้มากกว่าชนะบ้าง อาจจะเคยเจอมวยดังหน่อยก็อย่างซอนนี่ บอย จาโร่ ที่เคยทิ่ม “เจ้ากร” พงษ์ศักดิ์เล็กเสียมวยมาแล้ว ซึ่งนวพลก็ทำได้ดีเอาชนะไปได้ เจสัน โมโลนี่ย์นั้นงานนี้ชกในบ้าน เป็นต่อเยอะแน่ๆ สไตล์การชกก็ต้องยอมรับว่านักชกไทยเป็นมวยพิมพ์นิยม คือเดินทื่อๆ เข้าหา ตัวแข็ง ออกหมัดทีละหมัด น่าจะไล่ต่อยคู่ต่อสู้ลำบาก
ก็ต้องบอกว่าเป็นไฟต์ใหญ่จริงๆ เพราะนานๆ ทีที่นักมวยไทยจะได้ขึ้นสังเวียน “ของจริง” แบบนี้ ที่ผ่านมาก็มีขวัญใจชาวไทยอย่าง “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่นเท่านั้นที่ได้ขึ้นสังเวียนมวยระดับโลกของจริงมาตลอด ส่วนนักชกไทยรายอื่นๆ เอาจริงที่เป็นแชมป์โลกกันอยู่อย่าง “ยักษ์แคร” วันเฮง หรือ “เจ้านูน” น็อกเอ๊าท์ หรือล่าสุด “เจ้าญา” เพชรมณี ก็ชกกันเอง หรือสั่งผู้ท้าชิงมา “ต่ออายุ” ไปเรื่อยๆ เท่านั้น หรือย้อนไปปี 2020 ก็เคยมี “ดาวเหนือ จีพีพีเรือใบไข่มุก” ที่ได้ไปชิงเข็มขัดโลกของจริงจาก จอช เทย์เลอร์ นักชกสหราชอาณาจักร ก็นอนไวแค่ยกแรก นอกนั้นก็ไม่มีนักชกไทยได้ขึ้นสังเวียนของจริงระดับอินเตอร์เลย งานนี้แม้จะเป็นรองเยอะแต่แฟนมวยไม่น่าพลาดเอาใจช่วยนักชกไทยกัน