พีจีเอทัวร์ ประกาศโปรแกรมการแข่งขันประจำฤดูกาล 2022-23 กำหนดชิงชัยทั้งสิ้น 47 รายการ เป็นโปรแกรมแข่งขันในฤดูกาลปกติ 44 รายการ และเฟดเอ็กซ์คัพ เพลย์ออฟ 3 รายการ โดยจะไปปิดท้ายตัดสินตำแหน่งแชมป์เฟดเอ็กซ์คัพประจำปี 2023 ในรายการเดอะ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ ที่สนามอิสต์ เลค กอล์ฟ คลับ ในเมืองแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย ระหว่างวันที่ 21-27 สิงหาคม 2023
การแข่งขันในฤดูกาลใหม่มีการปรับเปลี่ยนจำนวนนักกอล์ฟผู้ผ่านเข้าร่วมชิงชัยในศึกเฟดเอ็กซ์คัพ เพลย์ออฟ โดยมีนักกอล์ฟเพียง 70 คนเท่านั้น ที่จะได้สิทธ์ลงแข่งรายการแรกของซีรีส์เฟดเอ็กซ์คัพ เพลย์ออฟ ในศึกเฟดเอ็กซ์ เซนต์ จู๊ด แชมเปี้ยนชิพ และจะตัดตัวเหลือ 50 คน ไปแข่งสนามที่สองในรายการบีเอ็มดับเบิลยู แชมเปี้ยนชิพ จากนั้นคัดเหลือ 30 คน ไปชิงชัยสนามสุดท้ายรายการ เดอะทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ
โปรแกรมการแข่งขันในฤดูกาลหน้า ยังมียอดเงินรางวัลรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมี 8 รายการอินวิเทชัน เพิ่มเงินรางวัลรวมจาก 12 ล้านเหรียญสหรัฐเป็น 20 ล้านเหรียญสหรัฐ มีเงินโบนัสรวม 145 ล้านเหรียญสหรัฐ แยกเป็นเงินรางวัลชิงชัยสำหรับเฟดเอ็กซ์คัพ 75 ล้านเหรียญสหรัฐ อีก 20 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับ Comcast Business TOUR TOP 10 มอบให้กับผู้เล่นที่ทำผลงานติดท็อปเท็นในฤดูกาลปกติ และ 50 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับ Player Impact Program
สำหรับนักกอล์ฟ 70 คนที่ได้แข่งขันเฟดเอ็กซ์คัพเพลย์ออฟสนามแรกจะได้รับสิทธิ์ลงเล่นในพีจีเอทัวร์ฤดูกาลถัดไปแบบเต็มตัว โดยในปี 2024 ฤดูกาลแข่งขันปกติจะแข่งขันจากเดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคม หลังจบรายการเฟดเอ็กซ์คัพเพลย์ออฟสนามสุดท้ายของปี 2023 ในศึกเดอะ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ จะแข่งขันในช่วงฤดูใบไม้ร่วงระหว่างเดือนกันยายนและพฤศจิกายน ซึ่งนักกอล์ฟที่ทำผลงานในท็อป 70 ของฤดูกาล 2022-23 จะได้สิทธ์ร่วมชิงชัย ส่วนผู้ที่ไม่ติดท็อป 70 มีโอกาสลุ้นโค้งสุดท้ายเพื่อรักษาสถานะในทัวร์สำหรับฤดูกาล 2024
หลังเสร็จสิ้นโปรแกรมการแข่งขันในช่วงฤดูใบไม้ร่วง พีจีเอทัวร์จัดแข่งรายการซีรีส์ อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งจะมีนักกอล์ฟใน 50 อันดับแรกของตารางคะแนนเฟดเอ็กซ์คัพ พร้อมด้วยนักกอล์ฟที่ทำผลงานดีที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และผู้ที่ได้รับสิทธ์พิเศษ เข้าร่วมชิงชัยโดยไม่มีการตัดตัว โดยจะประกาศแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมในเร็วๆนี้