เผยแพร่: ปรับปรุง:
ไมอามี ดอลฟินส์ เอาชนะ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ แบบพลิกล็อก 22-10 ในศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) “เธิร์สเดย์ ไนท์” ที่สนาม ฮาร์ด ร็อค สเตเดียม วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน
ดอลฟินส์ เก็บชัย 2 เกมติดรอบ 5 วัน หลัง ซาเวียน ฮาเวิร์ด คอร์เนอร์แบ็ก ดอลฟินส์ ทำให้เกิดการฟัมเบิล (บอลหลุดจากการครอบครอง) วิ่งย้อนทัชดาวน์ 49 หลา และ ตูอา ทาโกไวลัว ควอเตอร์แบ็ก มุดแนวป้องกัน ทำทัชดาวน์ ระยะ 1 หลา เหลือเวลา 2 นาที 19 วินาที
ดอลฟินส์ ขยับสถิติเป็น ชนะ 3 แพ้ 7 ได้ 3 ฟิลด์โกลจาก เจสัน แซนเดอร์ส ตัวเตะ ขณะที่ ทาโกไวลัว ซึ่งไม่ได้เป็นตัวจริง เนื่องจากกระดูกนิ้วมือซ้ายข้างถนัดแตก ขว้าง 158 หลา และ จาโคบี บริสเซตต์ ควอเตอร์แบ็ก ขว้าง 156 หลา ก่อนบาดเจ็บเข่าขวา ถูกเปลี่ยนออกควอเตอร์ 3
สถิติทำคะแนนอย่างน้อย 14 แต้มของ บัลติมอร์ สิ้นสุดลงที่ 51 เกม ยาวนานสุดอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ NFL รองจาก 63 เกมของ นิว อิงแลนด์ แพทริออตส์ ปี 2009-2013
ด้าน เรฟเวนส์ ซึ่งเหนือกว่า ไมอามี สกอร์รวมตลอดการพบกัน 3 ครั้งล่าสุด 137-16 ก่อนคิกออฟเกม “เธิร์สเดย์ ไนท์” ได้ ลามาร์ แจ็คสัน ควอเตอร์แบ็ก ขว้างบอลเข้าเป้า 26 จาก 43 ครั้ง ระยะ 238 หลา 1 ทัชดาวน์ แต่ไม่เพียงพอ สถิติหล่นเหลือ ชนะ 6 แพ้ 3
บริสเซตต์ ขว้างคอมพลีต ระยะ 52 หลา ให้ ไอเซียห์ ฟอร์ด ท้ายครึ่งแรก แล้วส่ง แซนเดอร์ส ลงมาเตะฟิลด์โกล ส่งผลให้ ไมอามี ขึ้นนำ 6-3 หลังจบควอเตอร์ 2 เริ่มครึ่งหลัง ทีมบุก ไมอามี เข้าใกล้ เอนด์ โซน มากสุด ช่วงกลางควอเตอร์ 3 ทาโกไวลัว ขว้างบอลให้ โรเบิร์ต ฮันท์ การ์ดด้านขวา เหยียดบอลข้ามเส้นประตู จังหวะถูกแท็คเกิล ทว่าไม่นับเป็นสกอร์ เนื่องจากกติการะบุว่า ออฟเฟนซีฟ ไลน์แมน เป็นตำแหน่งที่ไม่มีสิทธิ์รับบอล จึงต้องเตะฟิลด์โกล ทิ้งห่าง 9-3
ฮาเวิร์ด ตบบอลหลุดมือ แซมมี วัตกินส์ ปีกนอก เรฟเวนส์ แล้วเก็บบอลวิ่งเข้า เอนด์ โซน ส่งผลให้ ไมอามี หนีไปเป็น 15-3 ต่อมา มาร์ก แอนดรูว์ส ไทต์เอนด์ บัลติมอร์ รับบอลทำทัชดาวน์ ระยะ 5 หลา ตีตื้นเหลือ 10-15