เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ยืนยันผลการแข่งขัน พรีเมียร์ ลีก พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน ยังไม่ส่งผลต่อการตัดสินแชมป์ ฤดูกาล 2021-22
“เดอะ เรดส์” จะบุกเยือนถิ่นเอติฮัด สเตเดียม ด้วยสถานการณ์ตามหลัง ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา 1 แต้ม และผลต่างลูกได้-เสียดีกว่า โดยทั้งคู่ลงเล่นทีมละ 30 นัด
นอกจากนี้ ทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ กับ ซิตี จะต้องดวลกันอีก ในศึกเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ สุดสัปดาห์หน้า (16 หรือ 17 เม.ย.) และอาจปะทะกันในศึกยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เดือนพฤษภาคม
ทีมของ คล็อปป์ กำลังร้อนแรงชนะมา 10 เกมรวด เฉพาะลีกสูงสุด และหากเก็บ 3 คะแนนเต็ม เหนือ “เรือใบสีฟ้า” ก็จะขึ้นนำจ่าฝูง 2 แต้ม เหลือโปรแกรมทีมละ 7 เกม
อย่างไรก็ตาม อดีตเทรนเนอร์ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เชื่อว่า ผลการแข่งขันจะไม่มีผลต่อการลุ้นแชมป์ เนื่องจากเส้นทางยังอีกยาวไกลกว่าจะจบฤดูกาล
บิ๊กบอสชาวเยอรมัน กล่าว “ผมไม่สามารถตัดสินสิ่งที่คนอื่นๆ คิด แต่เราทำได้เพียงลงสนาม เพื่อผลการแข่งขันที่ต้องการ หากเราชนะ เราจะนำ 2 แต้ม หากใครจะมองว่า มันจบแล้ว ผมคงทำอะไรไม่ได้”
“หากเราแพ้ เราจะตาม 4 แต้ม หากคนอื่นๆ มองว่า ทุกอย่างจบแล้ว ผมก็คงเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ผมรู้ไม่มีใครภายในทีม แมนฯ ซิตี จะมองเช่นนั้น และผลเสมอ เราก็จะตาม 1 แต้ม เท่าเดิม”
“มันเป็นเรื่องวิเศษมาก นั่นคือสาเหตุที่ถูกจุดประเด็น ลองนึกดูสิ หากเราตาม 14-15 แต้ม มันก็ยังเป็นแมตช์หยุดโลก แต่ขาดอะไรไปสักอย่าง และไม่มีความหมายใดๆ”
“เราผ่านมาถึงสุดยอดเกมของซีซันจวบจนวันนี้ และผมดีใจเหลือเกินที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเกม ผมจินตนาการได้เลยว่า แฟนๆ มากมายจะต้องติดตาม และเราจะพยายามเอาชนะ”