เผยแพร่: ปรับปรุง:
คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
ย้อนนึกถึงการแข่งขัน เอ็นบีเอ (NBA) รอบชิงชนะเลิศ ปี 1996 จอร์จ คาร์ล เฮดโค้ช ซีแอตเทิล ซูเปอร์โซนิคส์ มอบหมาย แกรี เพย์ตัน ดีกรีผู้เล่นป้องกันยอดเยี่ยม ประกบ ไมเคิล จอร์แดน การ์ดแม่ทัพ ชิคาโก บูลล์ส ตลอด 3 เกมสุดท้ายของซีรีส์ ถึงแม้เป็นกลยุทธ์พิเศษ ซึ่งใช้เพียงช่วงสั้นๆ แต่ก็มีประสิทธิภาพสูงจนกระทั่งซีรีส์ยืดเยื้อถึงเกม 6 (แข่งระบบ 4 ใน 7 เกม)
ดังที่หลายๆ คนกล่าวไว้ว่า “ตัวเลขหรือสถิติไม่เคยโกหก” ค่าเฉลี่ยของ “เอ็มเจ” ลดเหลือ 23.7 แต้มต่อเกม ยิงฟิลด์โกลเข้าเป้า 36.7 เปอร์เซ็นต์ ตลอด 3 เกมสุดท้ายของซีรีส์ เทียบกับ ผลงาน 15 เกมแรก เฉพาะเพลย์ออฟ เฉลี่ย 32.7 แต้ม ยิงฟิลด์โกลเข้าเป้า 47.6 เปอร์เซ็นต์ ย่อมเห็นได้ชัดว่า การแก้เกมของ คาร์ล ซึ่งใช้ เพย์ตัน ประกบ จอร์แดน ประสบความสำเร็จ และส่งผลให้ ซีแอตเทิล ชนะ 2 จาก 3 เกมสุดท้าย ก่อนแพ้ซีรีส์ 2-4 เกม
นั่นคือตำนานบทหนึ่ง ซึ่งเล่าขานถึงความเก่งกาจของ เพย์ตันคนพ่อและดูเหมือนว่าจะจุดเด่นนั้นจะถูกถ่ายทอดมาถึงลูกชาย แกรี เพย์ตัน เดอะ เซคันด์ ที่เป็นกำลังสำคัญคนหนึ่งของการเปิดซีซัน 2021-22 อย่างร้อนแรงของ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส สถิติ ชนะ 9 แพ้ 1 ครองอันดับ 1 ของสายตะวันตก และลีก ณ เวลานี้ ระหว่างแฟนๆ กำลังรอคอยการคืนสนามของ เคลย์ ธอมป์สัน ครึ่งหนึ่งของคู่หู “สแปลช บราเธอร์ส”
เพย์ตัน จูเนียร์ ส่วนสูง 6 ฟุต 3 นิ้ว (ประมาณ 186 เซนติเมตร) ไม่ได้มีจุดเด่นด้านเกมรุกสักเท่าไร เป็นเหตุให้เขาอยู่กับ มิลวอกี บัคส์, แอลเอ เลเกอร์ส และ วอชิงตัน วิซาร์ดส ระยะสั้นๆ ก่อนย้ายมาอยู่ วอร์ริเออร์ส ด้วยสัญญา 10 วัน เมื่อปี 2020 โดยไม่มีบทบาทอะไรในทีมที่กำลังแย่งชิงโควตาเพลย์ออฟ สำหรับการแข่งขัน เพลย์-อิน ทัวร์นาเมนต์ ได้รับโอกาสลงสนามแค่ 28 วินาที
เข้าสู่ 4 วันสุดท้ายของสัญญา เพย์ตัน ได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเอง พบ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ โดยอยู่บนสนามนานเกือบ 10 นาที ปิดสกอร์ 10 แต้ม ยิงฟิลด์โกลเข้าเป้า 3 จาก 4 ลูก กับ 4 สตีล ซึ่งเป็นจุดเด่นแบบเดียวกับคุณพ่อเจ้าของสมญา “เดอะ โกลฟส์” ทำให้ วอร์ริเออร์ส จับเซ็นสัญญา 10 วัน ฉบับที่ 2 และเป็นผู้เล่นของทีม ชุดซัมเมอร์ ลีก กับ เทรนนิง แคมป์ ก่อนเริ่มฤดูกาลปกติ 2021-22
ความโชคร้ายของ เพย์ตัน II เข้ามากล้ำกราย เนื่องจากป่วยเป็นไส้เลื่อน ทำให้ถูกจำกัดโอกาสลงสนาม และการแย่งตำแหน่ง แถม วอร์ริเออร์ส จึงหันไปคว้า เอเวอรี แบรดลีย์ การ์ดจอมเก๋า ซึ่งมีคุณสมบัติที่ทีมต้องการ คือ แม่น 3 คะแนน กับ การป้องกัน อย่างไรก็ตาม แบรดลีย์ โชว์ฟอร์มน่าผิดหวัง ยิงฟิลด์โกลเข้าเป้า 7 จาก 18 ลูก รวม 2 จาก 9 ลูก จากการชู้ตแบบโล่งๆ เกิดความเสียเปรียบต่อทีมระหว่างเกม
ทั้งคู่ถูกตัดตัวทิ้ง ทว่าไม่นานนัก วอร์ริเออร์ส กลับลำเซ็นสัญญา เพย์ตัน II โดยการันตีค่าแรงขั้นต่ำ เขาแทบไม่มีบทบาทช่วง 2 เกมแรกของซีซันนี้ มักถูกเรียกใช้งานในสถานการณ์เฉพาะหน้า ยกตัวอย่าง เขาได้รับโอกาสเพียงไม่กี่วินาที เกมพบ แอลเอ เลเกอร์ส ท้ายควอเตอร์ เพื่อประกบ รัสเซลล์ เวสต์บรูก และปิดด้วยการสตีล
สตีฟ เคอร์ เฮดโค้ช วอร์ริเออร์ส บอกว่า นี่เป็นแผนสำหรับการใช้งาน เพย์ตัน II เขาเป็นผู้เล่นสไตล์ป้องกันที่สามารถสร้างความดุดันแก่ทีม ด้วยเหตุนี้จึงเป็นอีกเกมหนึ่งที่เขาได้รับโอกาสลงสนาม พบ ซาคราเมนโต คิงส์ ทีมที่มุ่งเน้นเจาะพื้นที่ใต้แป้น ระหว่าง อังเดร อิกัวดาลา การ์ดจอมเก๋า รักษาอาการบาดเจ็บ เขาลงเล่น 20 นาที ซัดไป 10 แต้ม กับ 1 สตีล แถมยังคอยตะลุยเข้าหาห่วงสม่ำเสมอ และยิง 3 คะแนน 2 ลูกเข้าเป้าทั้งหมด
เพย์ตันที่ 2 อยู่ในสถานที่ที่เขาน่าจะแจ้งเกิดด้วยวัย 28 ปี ทุกๆ ครั้งที่เขาถูกเรียกใช้งาน มักตอบแทนด้วยเกมป้องกันอันเหนียวแน่น กับเกมรุกหลากหลายรูปแบบ จึงมีแนวโน้มว่า เขาจะสามารถการันตีตำแหน่งระยะยาว และอาจช่วยแฟรนไชส์ก้าวสู่ความสำเร็จ เหมือน “อิกกี (อิกัวดาลา)” ใช้เกมป้องกันเล่นงาน เลอบรอน เจมส์ จนคว้าผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) รอบชิงชนะเลิศมาแล้ว
บ่อยครั้งเราไม่ได้เห็นลูกชายเหล่าตำนานกีฬาต่างๆ สร้างชื่อเสียงเทียบเท่าคุณพ่อหรือบรรพบุรุษ จะมีก็เพียงไม่กี่ตระกูล เช่น เชซาเร กับ เปาโล มัลดินี เป็นต้น แม้กระทั่งลูกชาย ไมเคิล จอร์แดน ก็ไม่ได้มาสำแดงฝีมือบนสังเวียน NBA หรือ ลุค วอลตัน ลูกชาย บิลล์ วอลตัน ก็โดดเด่นในบทบาทโค้ชได้ไม่นาน ดังนั้นจึงอยากเอาใจช่วย “GP2” สร้างชื่อได้อย่างคุณพ่อ แกรี เพย์ตัน ซีเนียร์