“โครเอเชีย” รัวครึ่งหลัง 2 เม็ดรวด ไล่ต้อนเอาชนะ สก็อตแลนด์ 3-1 จบรองแชมป์กลุ่ม D ทะลุรอบน็อคเอาต์ศึกฟุตบอลยูโร 2020 ได้สำเร็จ ส่ง “เช็ก” ล่วงอันดับ 3
ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2020” วันอังคารที่ 23 มิถุนายน 2564 เป็นเกมการแข่งขันนัดที่สามในกลุ่ม D สก็อตแลนด์ ลงเล่นที่แฮมป์เดน พาร์ค พบกับ โครเอเชีย
เกมนี้ต่างฝ่ายต่างต้องเก็บชัยให้ได้เพื่อผ่านเข้าสู่รอบต่อไป โดยก่อนเกมทั้งคู่เพิ่งจะมีเพียง 1 คะแนน จากผลงานเสมอ 1 นัด แพ้ 1 นัด ซึ่งหากจบลงด้วยผลเสมอ จะทำให้ทั้งคู่กอดคอกันตกรอบแรก
นาทีที่ 17 กลายเป็นโครเอเชีย ที่ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อีวาน เปริซิช จ่ายให้ นิโคล่า วลาซิช ซัดผ่านมือ เดวิด มาร์แชลล์ เข้าไป
หลังเสียประตู สก็อตแลนด์ พยายามเดินหน้าบุกอย่างเต็มที่เพื่อทวงประตูคืนให้ได้ และในนาทีที่ 42 ก็มาตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่แนวรับโครแอตสกัดกันไม่ขาด มาเข้าทาง คัลลัม แม็คเกรเกอร์ ซัดเต็มข้อหน้ากรอบเขตโทษเข้าไปตุงตาข่าย และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลัง โครเอเชีย มาได้ 2 ประตูติดกัน ในนาทีที่ 62 ขึ้นนำ 2-1 จาก ลูกา โมดริช และนาทีที่ 77 จากอีวาน เปริซิช ขึ้นนำเป็น 3-1
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที โครเอเชีย เอาชนะ สก็อตแลนด์ 3-1 ส่งผลให้ทีมตราหมากรุก คว้ารองแชมป์กลุ่ม D ไปครอง โดยมี 4 คะแนนเท่ากับสาธารณรัฐเช็ก และลูกได้เสียเท่ากันที่ +1 แต่ โครเอเชีย ยิงได้เยอะกว่า
ทั้งนี้ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย โครเอเชีย ผ่านเข้าไปรอพบกับทีมอันดับ 2 ของกลุ่ม E ซึ่งจะรู้ผลในวันพรุ่งนี้ ขณะที่ สก็อตแลนด์ มีอันต้องตกรอบแรกอย่างน่าเสียดาย ขณะที่ เช็ก ได้เข้ารอบน็อคเอาต์ในการเป็นหนึ่งในทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด แต่ต้องรอลุ้นผลของ 2 กลุ่มในวันพรุ่งนี้ ว่าพวกเขาจะได้เจอกับใคร
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
โครเอเชีย : โดมินิค ลิวาโควิช (GK), โยซิป ยูราโนิช, เดยาน เลิฟเรน, โดมากอยจ์ วีดา, ยอสโก วาร์ดิโอล, มาเตโอ โควาซิช, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, อีวาน เปริซิช, ลูกา โมดริช, นิโคล่า วลาซิช, บรูโน่ เปตโควิช
สก็อตแลนด์ : เดวิด มาร์แชลล์ (GK), คีแรน เทียร์นีย์, แกรนต์ ฮานเลย์, สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, คัลลัม แม็คเกรเกอร์, จอห์น แม็คกินน์, สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง, สตีเฟ่น โอดอนเนลล์, ลินดอน ไดค์ส, เช อดัม
เผยแพร่: 3 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.