“แบร์ส” ทุบฝ่ายเดียว 23 แต้ม ถล่มแพทริออตส์ 33-14 หยุดสถิติแพ้ 3 เกมรวด

ชิคาโก แบร์ส สกอร์ 23 แต้มรวด เอาชนะ นิว อิงแลนด์ แพทริออตส์ ขาดลอย 33-14 ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) “มันเดย์ ไนท์” ที่สนาม ยิลเลตต์ สเตเดียม วันอังคารที่ 25 ตุลาคม ตามเวลาไทย

จัสติน ฟิลด์ส ควอเตอร์แบ็ก แบร์ส ขว้างได้ระยะรวม 179 หลา 1 ทัชดาวน์ ถือบอลวิ่งเองระยะรวม 82 หลา กับ 1 สกอร์ เปลี่ยนดาวน์ที่ 3 เป็นดาวน์ที่ 1 ด้วยพลังขา 5 ครั้ง และพลังแขนอีก 5 ครั้ง

แม็ตธิว จูดอน ไลน์แบ็คเกอร์ แพทริออตส์ กล่าว “เขาทำให้ไดรฟ์การบุกเดินหน้าต่อ เราหยุดพวกเขาให้เล่นดาวน์ที่ 3 ระยะไกล และมันดูเหมือนว่าเขาหาช่องทางวิ่ง หรือขว้างได้ตลอด เราไม่สามารถตอบโต้เขาได้เลย”

ฟิลด์ส วิ่งระยะ 3 หลา ถึง เอนด์ โซน ช่วงควอเตอร์แรก ขึ้นนำ 10-0 ภายหลัง ไบลีย์ แซ็ปปี ควอเตอร์แบ็กสำรอง ซึ่งลงเล่นแทน แม็ค โจนส์ ขับเคลื่อนทีมบุก นิว อิงแลนด์ ทำ 2 ทัชดาวน์ติดต่อกัน แซงนำ 14-10 ผลผลิตจากมหาวิทยาลัย โอไฮโอ สเตท ขว้างทัชดาวน์ 25 หลา ให้ คาลิล เฮอร์เบิร์ต กลายเป็นสกอร์แรกของการทุบฝ่ายเดียว 23 แต้ม

โจนส์ กลับมาจากอาการเจ็บข้อเท้า ทำได้เพียง 2 ทรี แอนด์ เอาท์ (เปลี่ยนเป็นดาวน์ที่ 1 ไม่สำเร็จ) เสีย 1 อินเทอร์เซ็ปต์ ขว้างบอลเข้าเป้าแค่ 3 จาก 6 ครั้ง ระยะ 13 หลา จึงถูกเปลี่ยนออก ส่วน แซ็ปปี ขว้างคอมพลีต 5 จาก 6 ครั้ง ระยะ 109 หลา เฉพาะครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังคอมพลีตแค่ 9 จาก 16 ครั้ง ระยะ 76 หลา เสีย 2 อินเทอร์เซ็ปต์ รามอนเดร สตีเวนสัน รันนิงแบ็ก รับบอล 8 ครั้ง 59 หลา และวิ่ง 11 ครั้ง 39 หลา

“นักรบกู้ชาติ” สถิติหล่นเหลือชนะ 3 แพ้ 4 ขณะที่ บิลล์ เบลิชิก เฮดโค้ช ยังมีความคิดใช้งานควอเตอร์แบ็กทั้ง 2 คน และ โจนส์ จะไม่ถูกถอดเป็นสำรองจากผลงานเกมนี้ โดยปฏิเสธตอบว่าใครจะเป็นตัวจริง พบ นิว ยอร์ก เจ็ตส์ สัปดาห์หน้า (30 ต.ค.)

ชิคาโก ได้ เดวิด มอนต์โกเมอรี รันนิงแบ็ก ถือบอล 16 ครั้ง ระยะ 62 หลา 1 ทัชดาวน์ หยุดสถิติพ่าย 3 เกมรวด, 4 จาก 5 เกมล่าสุด และยังปราชัยแก่ แพทริออตส์ 8 จาก 9 เกม นับตั้งแต่ถล่ม นิว อิงแลนด์ 46-10 ศึกซูเปอร์โบว์ล ปี 1986

ไคโร ซานโตส ตัวเตะ แบร์ส หวดฟิลด์โกลเข้าเป้า 4 จาก 4 ลูก รวมระยะ 50 หลา ช่วงท้ายควอเตอร์ 3 ทิ้งห่าง 26-14 ต่อมาหลังจาก แซ็ปปี เล่น 3 ครั้งแล้วออกจากสนาม ดานเต เพ็ตติส วิ่งย้อนพันต์ (เตะกินแดน) 27 หลา มาถึงเส้น 39 หลาแดนคู่ต่อสู้ ก่อน เฮอร์เบิร์ต กับ มอนต์โกเมอรี ตะลุยรวมกัน 26 หลา หนีไปเป็น 33-14

ขณะเดียวกัน ไคเลอร์ กอร์ดอน กับ จาควอน บริสเกอร์ 2 รุกกี้ทีมรับ “พญาหมี” ได้อินเทอร์เซ็ปต์แรกของอาชีพ