“แคนาดา” วอร์ม อัพ สู่ฟุตบอลโลก / MVP

คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP

และแล้วปาฏิหาริย์บังเกิดสำหรับแฟนๆ ลูกหนังในการรับชมการถ่ายทอดสด ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ แบบครบทั้ง 64 แมตช์ ผ่านหน้าจอโทรทัศน์ แม้ว่าอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้รับชมกันแบบฟรีๆ ดังที่เรียนไว้เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ปี 2026 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา, แคนาดา และ เม็กซิโก จะมีการเพิ่มทีมเป็น 48 ทีม ย่อมส่งผลถึงค่าลิขสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้น หากเทียบกับปีนี้ มูลค่าหลักพันล้านบาท แล้วอีก 4 ปีข้างหน้าจะขึ้นถึงเท่าไรล่ะ ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคตจะดีกว่า

ด้วยบรรยากาศ ฟุตบอลโลก ที่กำลังปะทุขึ้น หลังคิกออฟกันมาประมาณ 3 วัน นับถึงวันปั่นต้นฉบับ ก็ต้องตามกระแสกันไปก่อน เพราะกว่า อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) จะเห็นหน้าเห็นตาทีมเข้าเพลย์ออฟ ต้องรอถึงเดือนธันวาคม และ บาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ฤดูกาลปกติ 2022-23 เพิ่งจะเริ่มแข่งขันกันมาประมาณทีมละ 20 เกม ถือว่าหนทางยังอีกยาวไกลสำหรับทั้ง 2 ลีก

หากเอ่ยถึง ฟุตบอล หรือ ซ็อคเกอร์ โซนคอนคาเคฟ หรือ ทวีปอเมริกาเหนือ เรามักคุ้นเคย สหรัฐอเมริกา และ เม็กซิโก 2 ชาติขาใหญ่ประจำย่านนี้ โดยเข้าร่วม ฟุตบอลโลก สม่ำเสมอกว่าชาติอื่นๆ และถ้วย คอนคาเคฟ โกลด์ คัพ เปรียบเสมือนสมบัติผลัดกันชม นานๆ ครั้งจะมีทีมแปลกหน้าหลุดมาถึงรอบชิงชนะเลิศรายการนี้ อาทิ จาไมกา, คอสตา ริกา, ปานามา, ฮอนดูรัส รวมถึง แคนาดา ที่ก้าวมาคว้าแชมป์ปี 2000

แคนาดา เป็นชาติที่เราไม่ค่อยคุ้นว่าเก่งด้านกีฬา แต่ก็มีซูเปอร์สตาร์รุ่นอดีตที่หลายคนร้องอ๋อ อาทิ เวย์น เกร็ตซกี นักฮ็อคกี้น้ำแข็งระดับตำนาน เอ็นเอชแอล (NHL) ซึ่งเป็นคุณพ่อตาของ ดัสติน จอห์นสัน อดีตโปรหมายเลข 1 ของโลก, คริส เจอริโก, เบร็ตต์ “เดอะ ฮิตแมน” ฮาร์ท และครอบครัว แห่งวงการมวยปล้ำ สำหรับกีฬาที่เป็นสากลหน่อยก็มี สตีฟ แนช การ์ดจ่ายตำนาน NBA กับ แอนดรูว์ วิกกินส์ นัมเบอร์วันดราฟต์ 2014

ปัจจุบันแฟรนไชส์กีฬาของ แคนาดา ในลีกที่แฟนๆ ชาวไทยติดตามกันมากหน่อย เหลือเพียง โตรอนโต แร็พเตอร์ส แชมป์ NBA 2019 สมัย คาไว เลียวนาร์ด เป็นตัวชูโรง หลัง กริซซ์ลีส์ ย้ายแฟรนไชส์จาก แวนคูเวอร์ มาอยู่ เมมฟิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 2001 ซึ่งคอบาสฯ ยุค 90 ส่วนมาก จะคุ้นเคยกับความหมูของทั้ง 2 ทีม กระทั่งมีผู้เล่นเก่งๆ อย่าง เดมอน สเตาดาไมร์, วินซ์ คาร์เตอร์, เทรซี แม็คเกรดี, ชารีฟ อับดุล-ราฮิม และ เพา กาซอล เข้าสู่แฟรนไชส์

ว่ากันด้วยเรื่องลูกหนังแทบไม่แตกต่างจาก สหรัฐอเมริกา ซึ่งทีมหญิงจะโดดเด่นกว่า แคนาดา เข้าร่วมฟุตบอลโลก ครั้งสุดท้าย เมื่อปี 1986 ที่ประเทศเม๋กซิโก ปิดฉากทัวร์นาเมนต์แบบพ่าย 3 เกมรวด โดยยิงประตูไม่ได้เลย อย่าได้ถามถึงนักเตะยุคนั้น เพราะเกือบทั้งทีมค้าแข้งอยู่ในโซนอเมริกาเหนือ ยกเว้น 3 คนที่เล่นในทวีปยุโรป และอีก 2 คน ไม่มีสังกัด ถ้าเอ่ยชื่อออกไป น้อยคนนักจะรู้จัก

แต่สำหรับการเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์ครั้งแรกรอบ 36 ปี แคนาดา มีนักเตะความหวังอย่าง อัลฟอนโซ เดวิส เด็กหนุ่มวัย 22 ปี ซึ่งเกิดที่ค่ายผู้อพยพ ที่ประเทศกานา โดยมีพ่อ-แม่ชาวไลบีเรีย กระทั่งได้รับสัญชาติแคนาดา ปี 2017 เป็นนักเตะอายุน้อยสุดที่ลงเล่น เมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ (MLS) รองจาก เฟร็ดดี อาดู ก่อนย้ายมา บาเยิร์น มิวนิก เมื่อปี 2018 ยืนได้ทั้งตำแหน่งฟูลแบ็ก, วิงแบ็ก และปีก มีความเร็วกระชากหนีแนวรับ รวมถึงการเปิดบอลที่หวังผลได้

ส่วนแดนหน้า โจนาธาน เดวิด วัย 22 ปี เป็นนักเตะอีกคนหนึ่งที่ยังไม่ลืมตาดูโลก สมัย แคนาดา เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก เมื่อ 36 ปีก่อน เกิดที่เมืองบรูกลิน แต่ปฏิเสธการเรียกตัวเข้า ทีมชาติสหรัฐอเมริกา ชุด U20 โดยเลือกติดสัญลักษณ์ ใบเมเปิล ตรงหน้าอกแทน ย้ายมาอยู่ เกนท์ สโมสรลีกเบลเยียม หลังจบไฮสคูล เมื่อปี 2018 ปัจจุบันค้าแข้งอยู่ ลีลล์ แห่ง ลีก เอิง ฝรั่งเศส เข้าสู่ซีซันที่ 3 ยิง 41 ประตู จาก 111 นัดทุกรายการ

คืนวันนี้ (20 พ.ย.) แคนาดา จะลงเล่นแมตช์แรกของกลุ่ม E พบ เบลเยียม ซึ่งขุมกำลังส่วนมาก แปรสภาพจาก “ยุคทอง” สู่ “วัยทอง” เชื่อว่าถ้าพวกเขาใช้ความสดและความห้าว ต่อกร “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” ด้วยวิธีวิ่งสู้ฟัด อาจจะเป็นอีกแมตช์หนึ่งที่เกิดการพลิกล็อก เหมือน ซาอุดิอาระเบีย กอบกู้ศักดิ์ศรีทีมจากทวีปเอเชีย เอาชนะ อาร์เจนตินา แชมป์โลก 2 สมัย และเต็งแชมป์ปีนี้ 2-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (22 พ.ย.)