เผยแพร่: ปรับปรุง:
โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ยิงประตูเบิกร่องขึ้นแท่นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลทัพ “ตราไก่” ก่อนที่คีเลียน เอ็มบัปเป้ จะมาเหมาคนเดียวอีกสองประตู ช่วยให้ ฝรั่งเศส เอาชนะ โปแลนด์ 3-1 คว้าตั๋วเข้าไปล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้าย
ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ คืนวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา คู่แรก เป็นการเจอกันระหว่าง 2 ชาติจากทวีปยุโรป ฝรั่งเศส แชมป์เก่าเมื่อปี 2018 ลงสนามพบ โปแลนด์ ฟาดแข้งกันที่ อัล ธูมามา สเตเดียม
ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กลับมาใช้นักเตะชุดที่ดีที่สุดลงสนามอีกครั้ง หลังจากเกมก่อนที่พ่าย ตูนีเซีย 0-1 มีการโรเตชั่นผู้เล่นมากถึง 10 คน เกมนี้นำทัพมาโดย คีเลียน เอ็มบัปเป้, โอลิวิเยร์ ชิรูด์, ราฟาเอล วาราน, อองตวน กรีซมันน์ โดยมี อาเดรียง ราบิโอต์ จับคู่แดนกลางร่วมกับ ออเรเลียง ชูอาเมนี
ขณะที่ โปแลนด์ ภายใต้การคุมทีมของ เชสลาฟ มิชนีวิช ความสดของตัวผู้เล่นดูจะเป็นรองเพราะเกมที่แล้วใส่เต็มกับ อาร์เจนติน่า 90 นาทีเต็ม ยังคงนำทัพมาโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า โดยมี ปิโอเตอร์ ซีลินสกี, เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค คุมแดนกลาง และนายทวาร อย่าง วอยเซียค เชสนี
ช่วง 10 นาทีแรก ฝรั่งเศส โหมบุกอย่างหนักเพื่อทำประตูขึ้นนำให้ได้ อาศัยความเร็วของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ และอุสมาน เด็มเบเล่ เล่นงานแผงหลังโปแลนด์ แต่ยังหาจังหวะจบสกอร์ได้ไม่ดีพอ
ท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 44 ฝรั่งเศส ที่บุกอยู่นานก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ คีเลียน เอ็มบัปเป้ จ่ายให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนยิงหักข้อหนีมือ วอยเซียค เชสนี เข้าไป
สำหรับประตูดังกล่าวทำให้ ชิรูด์ ขึ้นแท่นดาวยิงสูงสุดตลอดการทีมชาติฝรั่งเศสแต่เพียงผู้เดียวแซงหน้า เธียร์รี อองรี ที่ 52 ประตู จากการลงสนาม 117 นัด และเป็นประตูที่ 3 ของเจ้าตัวในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
ครึ่งหลังเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 75 ฝรั่งเศส ได้ประตูหนีห่าง 2-0 จากจังหวะสวนกลับ อุสมาน เด็มเบเล่ จ่ายให้ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนซัดด้วยขวาไปที่เสาแรกผ่านมือ วอยเซียค เชสนี เข้าไป เป็นประตูที่ 8 ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายของเจ้าตัว
เท่านั้นยังไม่พอ น.90+1 ฝรั่่งเศส หนีห่างไปอีกเป็น 3-0 จากจังหวะที่ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ได้บอลในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนปั่นโค้งๆบอลหนีมือนายด่านโปแลนด์เข้าไป เป็นประตูที่ 9 ในเวิลด์ คัพ รอบสุดท้ายของตัวเอง และเป็นประตูที่ 5 ในทัวร์นาเมนต์นี้
น.90+6 โปแลนด์ มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ดาโยต์ อูปาเมกาโน ทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ และเป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี สังหารไม่พลาด ตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-3
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน ฝรั่งเศส ไล่ต้อนเอาชนะ โปแลนด์ ไปแบบไม่ยากเย็น 3-1 ตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ รอพบผู้ชนะระหว่าง อังกฤษ หรือ เซเนกัล