“ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ยอดทีมแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศแต่งตั้ง ฌอน ไดซ์ อดีตกุนซือเบิร์นลีย์ เข้ามากุมบังเหียนด้วยสัญญาเบื้องต้นถึงปี 2025 เพื่อกู้วิกฤติพาทีมดิ้นรนหนีตกชั้น
ผลงานของทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ไม่สู้ดีเอาเสียเลย ปัจจุบันพวกเขารั้งอันดับ 19 ของตาราง สะกดชัยชนะไม่เป็นมามากกว่า 3 เดือน ซึ่งนัดสุดท้ายที่พวกเขาเอาชนะคู่แข่งได้คือในเกมที่พบกับ คริสตัล พาเลซ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมปีที่แล้ว
และหลังจากที่ เอฟเวอร์ตัน บุกไปพ่ายแพ้ให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พวกเขาตัดสินใจแยกทางกับ แฟรงค์ แลมพาร์ด ตำนานดาวเตะทีมชาติอังกฤษทันที เซ่นผลงานสุดท้าย 10 เกมหลังสุดไม่ชนะใครในทุกรายการ พ่ายแพ้ให้กับคู่แข่ง 4 เกมรวดในรอบ 4 เกมหลังสุด
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา “ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน” ทำการเปิดตัว ฌอน ไดซ์ กุนซือคนใหม่ที่จะเข้ามารับงานเผือกร้อนต่อจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด โดยมีภารกิจสำคัญคือการพาทีมหนีตกชั้นให้ได้ในฤดูกาลนี้
“ผมเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่กลายมาเป็นเฮดโค้ชของ เอฟเวอร์ตัน สตาฟฟ์ และทีมงานของผมพร้อมแล้วที่จะช่วยให้สโมสรแห่งนี้กลับเข้าสู่เส้นทางที่ควรจะเป็น” ไดซ์ เริ่มกล่าว
“ผมทราบดีถึงสถานการณ์ของแฟนบอลเอฟเวอร์ตันที่พวกเขาเต็มไปด้วยแพสชั่น ผมเข้าใจดีว่าสโมสรแห่งนี้มีค่ากับพวกเขามากแค่ไหน เราพร้อมแล้วที่จะทำตามสิ่งที่พวกเขาต้องการ”
“เราอยากให้บรรยากาศเดิมๆ กลับมา อยากให้ความรู้สึกดีๆ กลับมา เราต้องการความสามัคคีซึ่งกันและกัน และทุกคนต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน”
“ผมตั้งใจอยากจะปรับเปลี่ยนโครงสร้างของสโมสรในบางเรื่อง ปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่น ซึ่งจะอยู่ในแบบที่เราควรจะเป็น คว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งให้ได้ นั่นคืองานที่อยู่ตรงหน้าเรา เราต้องการสร้างทีม, เล่นด้วยแท็คติกที่ดี, นักเตะทุกคนต้องเล่นกันเป็นระบบ, มีอิสระในการเล่นบ้าง และสนุกสนานกับฟุตบอลของพวกเขา ที่สำคัญคือต้องเล่นด้วยรอยยิ้ม แต่ต้องมาด้วยคุณภาพที่จะคว้าชัยชนะ” กุนซือป้ายแดงเอฟเวอร์ตัน ทิ้งท้าย
สำหรับ ฌอน ไดซ์ เทรนเนอร์คนใหม่ของ เอฟเวอร์ตัน เริ่มต้นเส้นทางอาชีพโค้ชด้วยการเป็นกุนซือของวัตฟอร์ด ก่อนจะมาสร้างชื่อกับ เบิร์นลีย์ ด้วยการพาทีมเลื่อนชั้น และเคยพาทีมไปลุยฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบคัดเลือก ซึ่งล่าสุดเขาตัดสินใจมาเซ็นสัญญากับ เอฟเวอร์ตัน ในที่สุด
เผยแพร่: 3 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.