เมื่อมนุษยชาติจะเอาชนะโรคร้ายด้วย “โอลิมปิก” / แมวดำ

คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ

ถึงจุดนี้เชื่อว่าการแข่งขันมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติอย่าง โอลิมปิก 2020 หรือ “โตเกียวเกมส์” จะไม่เลื่อนออกไปอีกแล้ว หลังจากต้องขยับเวลาออกมาเป็นเวลา 1 ปีเต็มๆ ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตอนนั้นประเทศแรกๆ ที่ประกาศจะไม่ส่งนักกีฬาไปร่วมวงล่าเหรียญรางวัล อาทิ ออสเตรเลีย แคนาดา ยืนยันหนักแน่นว่าไม่ไป และหลายชาติก็หวั่นวิตก

อย่างไรก็ตามเมื่อดูทิศทางลมแล้ว ญี่ปุ่น เองก็เห็นถึงความจำเป็นว่าเลื่อนออกไปก่อน 1 ปี แต่ยังคงเรียกขานว่า โอลิมปิก 2020 เหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือการป้องกันไวรัสที่เข้มงวดระดับพิเศษ งานนี้ผู้สื่อข่าวที่ได้รับมอบหมายให้ไปทำหน้าที่รายงานข่าวต่างชาติโดนเรียกไปอบรมถึงมาตรการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้ามสัมภาษณ์ผู้ชมการแข่งและ และใครก็ตามในกรุงโตเกียว ช่วง 14 วัน หลังเดินทางเข้าญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังต้องติดตั้งแอปพลิเคชันที่ชี้วัดสุขภาพ และระบบติดตามตัวบนโทรศัพท์มือถือ โดยข้อมูลทั้งหมดต้องส่งตรงสู่ฝ่ายจัดการแข่งขัน งานนี้สื่อตะวันตกต่างร้องจ้าก…บอกว่าเป็นการริดรอนเสรีภาพสื่อกันชัดๆ

ในส่วนของหมู่บ้านนักกีฬาก็ถูกยกไปตั้งบนเกาะทีมที่เกิดจากการถมทะเลอ่าวโตเกียว ตามติดด้วยการพักบนเตียงนอนที่ทำจากกล่องกระดาษ (แต่ได้รับการยืนยันว่าแข็งแรงพอรับน้ำหนักนักกีฬาร่างยักษ์ได้แน่นอน) โดยห้ามบุคคลผู้ไม่ส่วนเกี่ยวข้องเข้าสู่หมู่บ้านนักกีฬา และมีการเว้นระยะทั้งในโรงอาหาร และพื้นที่ต่างๆ รวมถึงผู้เข้าพักต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นเวลานอน หรือรับประทานอาหารเท่านั้น โดยระหว่างการแข่งขัน นักกีฬาจะต้องอยู่ในเส้นทาง ที่พัก และสนามแข่งขัน เป็นหลัก หากฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่ จะยึดไอดีการ์ดของนักกีฬาคนนั้น ๆ และส่งกลับประเทศทันที

จริงๆ แล้วสถานการณ์การระบาดไวรัสในญี่ปุ่นก็ไม่ใช่ว่าดีนัก ซึ่งขนาดว่าการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก มีประชาชนจำนวนหนึ่งออกมาต่อต้าน รวมถึงเดินขบวนประท้วง ล่าสุดถึงขั้นพยายามแย่งคบเพลิงจากเหล่าบรรดานักวิ่งกิตติมศักดิ์ทั้งหลาย บ้างก็ถึงขนาดยิงปืนฉีดน้ำใส่หวังดับเปลวไฟแห่งโอลิมปิก ที่มีจุดเริ่มต้นจากกรุงเอเธนส์ กันเลยทีเดียว

แม้กระนั้นทุกอย่างที่เริ่มกระบวนการมาแล้วจนถึงวันนี้ คงยากที่จะฉุดรั้งการแข่งขันกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติที่กำลังจะเริ่มพิธีเปิดในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้เป็นแน่แล้ว

โดยการจัดการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ เปรียบเหมือนกับความพยายามเอาชนะโรคภัย เพื่อแสดงให้เห็นว่าหากมีการจัดการที่ดีพอ มวลมนุษยชาติก็จะเริ่มกลับสู่การดำเนินชีวิตที่ใกล้เคียงวิถีเดิม คือ สามารถท่องเที่ยว และเดินทางได้ แม้จะมีข้อจำกัดต่างๆ เพิ่มเข้ามา รวมถึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงชัยชนะที่มีต่อโรคร้าย แต่หากเกิดผลตรงกันข้ามคงน่าหวั่นใจไม่น้อย….