เดินเร็วเข้าไว้…โรคภัยตามไม่ทัน! / พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ

คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”

“โปรลุงตุ้ย แกอายุ 80 กว่าแล้ว แต่แกเดินตัวปลิวเลย ไม่เคยใช้รถแคดดี้ยังบ่นตามแกไม่ทันเลย” คุณชูสง่ามองลุงตุ้ยพลางพูดอย่างชื่นชม “ใช่ครับเฮีย ผู้สูงอายุนี่ ไม่มีอะไรดีกว่าออกกำลังกายด้วยการเดิน เพราะการเดินเร็วนี่จะทำให้ขาแข็งแรง อายุยืน และโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ หนีหายหมด” พี่หมอตอบแล้วปรายตาไปพบเจ้าเก่งจอมตีไกล นั่งอยู่ข้าง ๆ เลยเอาซะหน่อย “และจัไม่อ้วนพุงยื่นอย่างไอ้เก่งนี่ด้วย”

แม้เป็นที่ทราบกันดีว่า การออกกำลังกาย เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ก็มีบางคนที่ไม่สามารถออกกำลังกายได้

การเดินเร็วจึงเป็นอีกทางเลือก การเดินเราแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ เดินช้า เดินเร็ว และเดินแข่ง

การเดินช้า คือการเดินที่ผู้เดินยังร้องเพลงได้ไพเราะ ผิวปากหรือฮัมเพลงได้เพราะ หรือยังลากเสียงยาว ๆ ได้ เช่น การเดินกรม เดินเล่น เดินซื้อของ

การเดินเร็ว หมายถึง การเดินเร็วติดต่อกันนานกว่า 10 นาทีต่อครั้ง เกินครึ่งชั่วโมงต่อวัน อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ คนปกติที่ร่างกายแข็งแรงดีควรเดินด้วยความเร็ว ได้ประมาณ 400 – 700 เมตร ในเวลา 6 นาที หรือเดินเร็วจนร้องเพลงไม่ได้เพราะ ผิวปากหรือฮัมเพลงลากเสียงยาว ๆ ไม่ได้ ถ้าเดินแล้วยังร้องเพลงได้เพราะ ลากเสียงยาว ๆ ได้ แสดงว่า ยังเดินช้าอยู่ แต่ถ้าเดินเร็วจนพูดไม่เป็นคำ ไม่รู้เรื่องแล้ว แสดงว่าเดินเร็วเกินไปจนเป็นการเดินแข่ง

การเดินแข่ง เป็นกิจกรรมทางกายอย่างหนัก คือ เดินเร็วจนกระทั่งพูดไม่เป็นคำ คุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะหายใจหอบเหนื่อยมาก หายใจไม่ทัน การเดินเร็วนั้น เหมาะสำหรับการเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ทนทาน ยืดหยุ่นให้ร่างกาย แต่สำหรับผู้ที่ต้องการเพียงแค่ป้องกัน หรือรักษาโรค การเดินเร็วก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องเดินแข่ง วิ่ง หรือเต้นแอโรบิค ก็ได้

– ประโยชน์ของการเดิน

ทำให้ลดโอกาสเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และหลอดเลือด ลดหรือควบคุมน้ำหนัก ควบคุมระดับไขมัน คลอเรสเตอรอลในเลือด และเพิ่มไขมันดี (เอชดีแอล : HDL) ในเลือด ช่วยป้องกันและรักษาโรคความดัน-โลหิตสูง ช่วยป้องกันโรคกระดูกบาง กระดูกพรุน เพิ่มความแข็งแกร่งหรือทนทานของกล้ามเนื้อ

นอกจากนี้ การเดินยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ และช่วยรักษาโรคเบาหวาน ลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็ง และช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม มะเร็งตับอ่อน เป็นต้น

การเดินยังช่วยเรื่องคลายเครียด ทำให้หลับสนิท ลดอาการซึมเศร้า ยิ่งถ้าเดินไปปรับทุกข์ไป เดินคุยกับเพื่อนรู้ใจ จะช่วยให้คลายทุกข์ไปได้มาก ดีกว่าไม่ต้องไปพึ่งพาสุรา ยาเสพติด บุหรี่หรือวัตถุที่ให้โทษ