เควิน เดอ บรอยน์ ยิง 1 จ่าย 1 “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี รัว 2 ประตูในช่วง 20 นาทีสุดท้าย บุกเก็บชัยเหนือ อาร์เซน่อล 3-1 คว้าสามแต้มสำคัญขึ้นไปผงาดตำแหน่งจ่าฝูงของตารางด้วยการมี 51 คะแนนเท่ากับทีม “ปืนใหญ่” แต่ลูกได้เสียดีกว่า
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกมบิ๊กแมตช์แย่งจ่าฝูง “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล เปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดียม ต้อนรับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี
อาร์เซน่อล ภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตตา เกมนี้ส่ง บูกาโย ซากา, กาเบรียล มาร์ติเนลลี และเอ็ดดี เอ็นเคเทียห์ เป็น 3 ประสานแนวรุก ส่วน แมนฯ ซิตี ของเป๊ป กวาร์ดิโอลา วันนี้วาง เออร์ลิง ฮาแลนด์ เป็นหัวหอกตัวเป้า โดยมี แจ็ค กรีลิช, ริยาด มาห์เรซ ทำเกมด้านข้าง และเควิน เดอ บรอยน์ คอยปั้นเกม
น.24 ทีมเยือน แมนฯ ซิตี ได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ พยายามจะจ่ายบอลคืนหลังแต่ผิดพลาดโดน เควิน เดอ บรอยน์ ที่วิ่งมาดักทาง ก่อนยิงสวนตูมเดียวเข้าประตูไปอย่างสุดสวย
อย่างไรก็ตามท้ายครึ่งแรก น.42 เอ็ดดี เอ็นเคเทียห์ โดน เอแดร์ซอน นายทวารเรือใบสีฟ้าทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ และเป็นบูกาโย ซากา สังหารเข้าไปไม่พลาด เจ้าถิ่นตีเสมอ 1-1 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
น.72 กลายเป็น แมนฯ ซิตี ที่ได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 จากจังหวะที่กาเบรียล มากัลเญส จ่ายบอลพลาดจนโดนทีมเยือนฉกไปได้ และเป็นอิลคาย กุนโดกัน ไหลบอลให้ แจ็ค กรีลิช วิ่งมายิงหน้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้ายหนีมือ อารอน แรมสเดล เข้าไป
น.82 แมนฯ ซิตี ทำสกอร์ขยับห่างเป็น 3-1 จากจังหวะที่ อิลคาย กุนโดกัน แทงให้ เควิน เดอ บรอยน์ หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนปาดเข้ากลางไปให้ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ยิงด้วยขวาเข้าประตูไป ถือเป็นการกลับมายิงประตูใส่คู่แข่งอีกครั้งในรอบ 3 เกมหลังสุด
ช่วงเวลาที่เหลือแม้ อาร์เซน่อล พยายามเร่งเครื่องบุก แต่ไม่สามารถทำอะไรเกมรับทีมเยือนได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที “ปืนใหญ่” พ่ายคาบ้านให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-3
จากชัยชนะในเกมนี้ส่งผลให้ “เรือใบสีฟ้า” ทำแต้มเพิ่มเป็น 51 คะแนน เท่ากับทีม “ปืนใหญ่” แต่ลูกได้เสียดีกว่า ขึ้นไปครองตำแหน่งจ่าฝูงของตารางได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม อาร์เซน่อล ลงสนามอยู่น้อยกว่า 1 นัด ยังมีโอกาสกลับไปทวงอันดับ 1 อีกครั้ง
เผยแพร่: 3 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.