“เชลซี” สุดกร่อยพ่าย “อาร์เซน่อล” คาบ้าน 0-1 ลุ้นเหนื่อยแย่งท็อปโฟร์ต่อ

“อาร์เซน่อล” ได้ประตูจากความผิดพลาดของ เชลซี ในช่วงครึ่งเวลาแรก โดยเป็น เอมิล สมิธ โรว์ ที่ซัดประตูชัยตั้งแต่นาทีที่ 16 ช่วยให้ “ปืนใหญ่” บุกเก็บชัยเหนือ “สิงห์บลูส์” 1-0 ในศึกลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ มีลุ้นคว้าตั๋วไปลุยยูโรป้า ลีก ในฤดูกาลหน้า

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดกลางสัปดาห์ คืนวันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2564 เป็นศึกลอนดอนดาร์บี้แมตช์ เชลซี เปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล

“สิงห์บลูส์” ทีมอันดับ 4 ของตาราง ภายใต้การคุมทีมของโธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน ยังต้องแย่งพื้นที่เพื่อไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า ส่วน “ปืนใหญ่” ของมิเกล อาร์เตต้า ทีมอันดับ 8 ของตาราง ยังมีลุ้นตั๋วไปเล่นยูฟ่า ยูโรป้า ลีก แบบเล็กๆ

น.10 เชลซี เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่แนวรับของอาร์เซน่อลจ่ายบอลกันผิดพลาดโดน ไค ฮาแวร์ตซ์ ฉกบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษดวลตัวต่อตัวกับแบรนด์ เลโน่ แต่เจ้าตัวซัดบอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 16 กลายเป็นอาร์เซน่อลที่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่จอร์จินโญ่พยายามจ่ายคืนหลังให้ เกปา แต่ส่งไม่ดีจนนายประตูชาวสแปนิชต้องวิ่งไปปัดบอลออกจากเส้นประตูแต่มาเข้าทาง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ก่อนจ่ายเข้ากลางมาให้ เอมิล สมิธ โรว์ ยิงหักข้อด้วยซ้ำเข้าประตูไป

หลังเสียประตู เชลซี พยายามเปิดเกมบุกอย่างหนักใส่ผู้มาเยือนต่อเนื่องเพื่อหวังทวงประตูคืน แต่ในจังหวะสุดท้ายยังทำกันได้ไม่ดีพอ หมดเวลาการแข่งขัน 45 นาทีแรก อาร์เซน่อล บุกมานำ เชลซี 1-0

ครึ่งหลัง เชลซี ที่โหมบุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 60 เกือบจะได้ประตูตามตีเสมอจากจังหวะลูกเตะมุม ไค ฮาแวร์ตซ์ โหม่งเช็ดมาให้ คริสเตียน พูลิซิช พักอกจ่อๆ เข้าไป แต่เมื่อผู้ตัดสินดู VAR แล้ว พูลิซิช อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ทำให้จังหวะนี้ไม่เป็นประตู

เจ้าถิ่น “สิงห์บลูส์” ยังคงเดินหน้าบุกแหลกเพื่อหวังทำประตูตีเสมอให้ได้ โดยมีโอกาสเหน่งๆในช่วงท้ายเกม และทดเวลาบาดเจ็บ แต่จังหวะจบสกอร์ไม่เป็นใจ ชนเสา-คาน 2-3 จังหวะติดๆ

สุดท้ายทั้งสองทีมไม่มีใครทำสกอร์กันเพิ่ม หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที อาร์เซน่อล บุกมาเอาชนะ เชลซี ได้ถึงถิ่น 1-0 เก็บสามคะแนนสำคัญ มีเพิ่มเป็น 55 คะแนน จาก 36 นัด ตามหลัง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 5 อยู่ 3 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด ยังได้ลุ้นตั๋วไปเล่นยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ในอีก 2 เกมสุดท้าย

ขณะที่ความพ่ายแพ้ของ เชลซี ในเกมนี้ ถือเป็นการปราชัยนัดที่ 3 ของ โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ชาวเยอรมันตั้งแต่มากุมบังเหียน “สิงห์บลูส์” และทำให้พวกเขาไม่สามารถแซง เลสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นไปที่ 3 ได้ รั้งอันดับ 4 มี 64 คะแนน จาก 36 นัด นำ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 5 อยู่ 6 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : เกปา อริซซาบาลากา (GK), เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ธิอาโก ซิลวา, เคิร์ท ซูม่า, รีซ เจมส์, บิลลี กิลมัวร์, จอร์จินโญ่, เบน ชิลเวลล์, เมสัน เมาท์, คริสเตียน พูลิซิช, ไค ฮาแวร์ตซ์

อาร์เซน่อล : แบรนด์ เลโน่ (GK), กาเบรียล, พาโบล มารี, ร็อบ โฮลดิง, คีแรน เทียร์นีย์, โธมัส ปาร์เตย์, โมฮาเหม็ด เอลนินี, บูกาโย ซากา, เอมิล สมิธ โรว์, มาร์ติน โอเดการ์ด, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง