เผยแพร่: ปรับปรุง:
เชลซี ยักษ์ใหญ่แห่ง พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ทุ่มเงิน 105 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,370 ล้านบาท) ตามค่าฉีกสัญญาคว้า เอ็นโซ เฟร์นานเดซ มิดฟิลด์ เบนฟิกา ช่วงตลาดซื้อ-ขายฤดูหนาว
กองกลางวัย 21 ปี แจ้งเกิดเต็มตัว ในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ คว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ หลังเอาชนะดวลจุดโทษ ฝรั่งเศส 4-2 (ครบ 120 นาที เสมอ 3-3) ช่วงกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
เอ็นโซ ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทว่า “เดอะ บลูส์” ชิงลงมือก่อน โดยแจ้งต่อ “เหยี่ยวลิสบอน” ต้องการให้การซื้อ-ขายสัมฤทธิ์ผล
สัญญาปัจจุบันของ เอ็นโซ จะสิ้นสุดปี 2027 ขณะที่ เบนฟิกา พยายามรั้งนักเตะสุดชีวิต ทว่าระหว่างการพูดคุยกับ รุย คอสตา ประธานสโมสร และ ฮอร์เก เมนเดส เอเยนต์นักเตะ ปรากฏว่า “สิงโตน้ำเงินคราม” ยินดีจ่ายตามราคาฉีกสัญญา
กรณีการซื้อ-ขายประสบความสำเร็จ เอ็นโซ จะกลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงสุดของ “สิงห์บลูส์” แซง โรเมลู ลูกากู กองหน้าไซส์ยักษ์ สมัยย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน 97.5 ล้านปอนด์ (ราว 4,060 ล้านบาท) เมื่อปี 2021
ทีมย่านลอนดอนตะวันตก มาถึงขั้นตอนเจรจารายละเอียดส่วนตัวกับ เอ็นโซ และเอเยนต์นักเตะ
รองแชมป์เก่า คาราบาว คัพ และ เอฟเอ คัพ เร่งรัดปิดดีลตัดหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ซึ่งเลือกรอยื่นข้อเสนอช่วงซัมเมอร์ 2023
เอ็นโซ ยิงประตูแรกและประตูเดียวให้ อาร์เจนตินา รอบแบ่งกลุ่ม ชนะ เม็กซิโก 2-0 กลายเป็นนักเตะที่ยิงประตูด้วยอายุน้อยสุดอันดับ 2 ของทีมชาติ รองจาก ลิโอเนล เมสซี กัปตันทีม