วรพจ เพชรขุ้ม ตำนานนักมวยเหรียญเงินโอลิมปิกทีมชาติไทย โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ค ขอความเห็นใจจากนายทหารชั้นผู้ใหญ่ประจำกองทหารบก ให้พิจารณาเลื่อนตำแหน่งเหมือนนักมวยฮีโร่คนอื่นๆ หลังถูกละเลยมาตลอด
เฟซบุ๊คของ วรพจ เขียนข้อความไว้ดังนี้
#ฮีโร่ที่ถูก(ทภ.2และทบ)ลืม
ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวก่อนนะครับ
ผม สิบเอกวรพจ เพชรขุ้ม สังกัด ร.23 พัน.1 บรรจุรับราชการเมื่อ 10 มี.ค. 2543 หลังจากบรรจุก็ชกมวยรับใช้ทภ.2ตลอดมาทั้งกีฬาภายในกองทัพบก,ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย,มวยทหารโลก มีรางวัลการันตีและสร้างชื่อเสียงให้ ทบ.มาตลอดโดยเฉพาะทัวร์นาเมนต์นานาชาติ เหรียญทองซีเกมส์ 5 สมัยบรูไน,เวียดนาม,ฟิลิปปินส์,ไทยและอินโดนีเซีย,เหรียญทองแดงเอเชี่ยนเกมส์ ประเทศการ์ตา,เหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ ประเทศจีนและเหรียญเงินโอลิมปิคเกมส์ 2004 ประเทศกรีซ นี้คือผลงานที่ผมได้สร้างชื่อเสียงให้กับกองทัพบกและประเทศไทยแต่หลังจบการแข่งขันโอลิมปิกก็ไม่มีการปรับเลื่อนยศหรือตำแหน่งงานให้ผมซึ่งต่างจากนักมวยหลายๆคนที่มีผลงานบางคนได้เหรียญรางวัลกลับมาก็ได้รับการปูนบำเหน็จและเลื่อนยศให้เป็นนายทหารสัญญาบัตร บางคนไม่มีเหรียญรางวัลก็ได้รับการเลื่อนยศให้ ซึ่งนักกีฬาที่ได้เหรียญโอลิมปิกในปีเดียวกันก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นระดับผู้พันกันหมดแล้ว แต่ผมกับ จ.ส.อ.สุริยา ปราสาทหินพิมายก็ยังเป็นทหารชั้นประทวนที่ไม่ได้รับการดูแลจาก ท.ภ.2 และกองทัพบก
🥊ตอนนี้ผมกับสุริยาไม่มีผลงานด้านชกมวยให้ผู้ใหญ่ดูแล้วครับเพราะแขวนนวมเลิกมวยกันหมดแล้วแต่ยังเป็นโค๊ชให้กับน้องๆ ทภ.2 และ กองทัพบก
🥊ผมโพสต์เฟชออกมาก็อยากให้ผู้ใหญ่ทางทภ.2 หรือผู้ใหญ่ทางกองทัพบกเห็นบ้างว่าผมกับสุริยาก็ได้เหรียญโอลิมปิคและทำชื่อเสียงให้กับทภ.2 และกองทัพบกมาเยอะนะครับ
🥊สุดท้ายนี้ขอความเมตตากรุณาผู้ใหญ่ให้ผม ส.อ.วรพจ เพชรขุ้มและจ.ส.อ.สุริยา ปราสาทหินพิมายด้วยครับ
สำหรับ วรพจ เพชรขุ้ม สร้างผลงานยอดเยี่ยมให้แก่วงการมวยสากลสมัครเล่นไทย ทั้งเหรียญทองซีเกมส์ 5 สมัย, เหรียญทอง เอเชียน เกมส์ และเหรียญเงินโอลิมปิก ก่อนแขวนนวมและผันตัวมาเป็นโค้ชผู้ฝึกสอนให้แก่นักมวยรุ่นใหม่ภายหลัง