“อิตาลี” แรงไม่หยุด เฉือน “เบลเยียม” 2-1 ลิ่วตัดเชือกชน “สเปน”

อิตาลี ภายใต้การคุมทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เฉือนชนะ เบลเยียม 2-1 ตบเท้าผ่านเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายไปพบกับ สเปน 

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโร “ยูโร 2020” วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม 2564 เป็นการลงสนามในรอบ 8 ทีมสุดท้าย คู่สอง ที่ฟุตบอล อารีน่า มิวนิค (อลิอันซ์ อารีน่า) เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี ทีมชาติเบลเยียม ลงสนามพบ ทีมชาติอิตาลี

ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เบลเยียม ของกุนซือโรแบร์โต้ มาร์ติเนซ เฉือนเอาชนะ โปรตุเกส มา 1-0 ขณะที่ อิตาลี ของโรแบร์โต้ มันชินี เฮดโค้ชคนเก่ง ต้องเล่นถึง 120 นาที กว่าจะเอาชนะ ออสเตรีย มาหวุดหวิด 2-1

น.14 อิตาลี เกือบจะได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะลูกฟรีคิกทางฝั่งขวา เลโอนาร์โด โบนุชชี ยิงเข้าไป แต่เมื่อผู้ตัดสินดูภาพจาก VAR แล้ว กลายเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน

แต่แล้ว น.31 อิตาลี ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ แยน แฟร์ทองเก้น ทำพลาดหน้ากรอบเขตโทษถูกฉกบอล และเป็นนิโคโล บาเรลล่า หลุดเข้ามาในเขตโทษ ก่อนซัดผ่านมือ ธิโบต์ กูร์ตัวส์ เข้าไป

น.44 อิตาลี มาหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ลอเรนโซ่ อินซิเญ่ แตะหลบแนวรับของเบลเยียม ก่อนปั่นโค้งๆ หน้ากรอบเขตโทษหนีมือ กูร์ตัวส์ เข้าไปอย่างสุดสวย

อย่างไรก็ตาม น.45 เบลเยียม มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เยเรมี โดคู โดนจิโอวานนี ดิ ลอเรนโซ่ ใช้ท่อนแขนผลักล้มลงในเขตโทษ และเป็น โรเมลู ลูกากู สังหารเข้าไปไม่พลาด เป็นประตูที่ 4 ของตัวเองในทัวร์นาเมนต์นี้ ช่วยให้ เบลเยียม ตีตื้นมาเป็น 1-2 และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง เบลเยียม พยายามเปิดฉากบุกอย่างหนักเพื่อทำประตูตีเสมออิตาลีให้ได้ แต่แนวรับของทีมอัซซูรียังเล่นกันได้อย่างแข็งแกร่ง ปิดโอกาสการลุ้นประตูของคู่แข่งได้อยู่หมัด

หมดเวลา 90 นาที อิตาลี เอาชนะ เบลเยียม 2-1 ตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายไปพบกับทีมชาติสเปน แข่งขันกันในคืนวันที่ 6 กรกฎาคมนี้ เวลา 02.00น. ตามเวลาประเทศไทย

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
เบลเยียม : ธิโบต์ กูร์ตัวส์ (GK), โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์, โธมัส แฟร์มาเลน, แยน แฟร์ทองเกน, โธมัส มูนิเยร์, อาเซล วิตเซล, ยูริ ติเลอมองส์, ธอร์กอง อาซาร์, เควิน เดอ บรอยน์, เยเรมี โดคู, โรเมลู ลูกากู

อิตาลี : จิอันลุยจิ ดอนนารุมม่า (GK), จิโอวานนี ดิ ลอเรนโซ่, เลโอนาร์โด โบนุชชี, จอร์จิโอ คิเอลลินี, เลโอนาร์โด สปินาซโซล่า, จอร์จินโญ่, มาร์โก แวร์รัตติ, นิโคโล่ บาเรลล่า, ลอเรนโซ่ อินซิเญ่, เฟเดริโก เคียซ่า, ชิโร่ อิมโมบิเล่