คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ
การได้เห็นอดีตโค้ชทีมชาติไทยอย่าง “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ตอบรับคุมทีม ฮองอันห์ ยาลาย แหงลีกเวียดนาม ตอนแรกก็แปลกใจเหมือนกัน เพราะคิดว่าหลายสโมสรในลีกบ้านเราน่าจะมีศักยภาพเหมาะกับอดีตดาวเตะระดับตำนานของทัพ “ช้างศึก” รายนี้มากกว่า แต่เมื่อย้อนดูผลงานในอดีตของเขากับสโมสรแห่งนี้แล้วก็ต้องยอมรับว่า แฟนบอลเวียดนามไม่มีวันลืมเลือนได้แน่
ก่อนหน้ามีการวิเคราะห์กันว่า การรับงานของ “ซิโก้” นั้นไม่ง่ายแน่นอนสำหรับการหวนคืน วี-ลีก เหมือนเช่นที่เคยนำทีมคว้าแชมป์ได้ในอดีต เนื่องจากรอบนี้กุนซือชาวไทย มีระยะเวลาก่อนการเปิดฤดูกาลค่อนข้างน้อย การจะให้ผู้เล่นเรียนรู้และเข้าใจปรัชญาในการทำทีมของเขานั้นน่าจะต้องใช้เวลาพอสมควร
แต่พอเอาเข้าจริงเกมผ่านไป 6 นัด ฮองอันห์ ยาลาย ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงในขณะนี้ แม้จะเร็วเกินไปที่จะสรุปว่ากุนซือวัย 47 ปี จะนำทีมสู่แชมป์วี-ลีกได้อีกครั้ง แต่มันก็แสดงให้เห็นว่าเขาคนนี้ไม่ใช่โค้ชที่ใครจะมองข้ามได้
จากผลงานของ ฮองอันห์ ยาลาย ในช่วงหลังมักป้วนเปี้ยนอยู่แถวกลางตาราง การมาของ “ซิโก้” ครั้งนี้จึงสร้างความคึกคักให้เหล่าบรรดาผู้เล่นในสโมสร และหากมองด้วยสายตาเป็นธรรมจะเห็นว่า นอกจากแฟนบอลเวียดนามจะตอบรับการมาของโค้ชไทยรายนี้ด้วยการแห่ซื้อตั๋วชมเกมลีกของ ฮองอันห์ ยาลาย แล้ว เรายังได้เห็นความสนใจจากสื่อมวลชนในบ้านเราที่ต่างก็โฟกัสผลงานของ “ซิโก้” กับ ฮองอันห์ ยาลาย อีกด้วย
ซึ่งการที่ผลงานของสโมสรออกมาดี ส่งผลให้ “ซิโก้” ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก โดยสื่อเวียดนามต่างก็พูดถึงผลงานของเขาว่าเป็นการปลุกทีมยักษ์หลับให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง และไม่เพียงแต่เรื่องผลงานในสนามเท่านั้น เรายังได้เห็นผลงานนอกสนามของ “ซิโก้” อย่างชัดเจน เขากลายเป็นเหมือนตัวแทนสโมสรในการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำคณะนางงามทัวร์พิพิธภัณฑ์ของสโมสร การร่วมกิจกรรมมาราธอน และอีกหลายๆ สิ่งที่ถ่ายทอดกลับสู่ประเทศไทย จนเริ่มกลายเป็นสิ่งคุ้นเคยของแฟนบอลไทยไปแล้ว
นอกจากนี้สื่อเวียดนามยังกล่าวถึง “ซิโก้” ไว้อย่างน่าสนใจว่า เขาเป็นคนที่มีแนวความคิดในแง่บวก จากอดีตที่เคยมาค้าแข้งสมัยเป็นผู้เล่น แม้จะมีอาการบาดเจ็บ แต่ก็ยังร้องเพลงเล่นกีตาร์ แล้วนำยางในจักรยานมายึดขอบเตียงเพื่อรักษาสภาพกล้ามเนื้อไปในตัว
ไม่เพียงแต่เรื่องการดูแลตัวเองตามแบบฉบับมืออาชีพ ยังเผื่อแผ่ความเป็นห่วงไปยังผู้เล่นชาวเวียดนาม ไม่ว่าจะเป็นการไปออกงานเพื่อโปรโมตธุรกิจของลูกทีมตัวเอง หรือแม้แต่การแสดงความห่วงใยต่อผู้เล่นทีมชาติเวียดนามที่โดนเสียบจนขาหัก
ขณะเดียวกันสื่อมวลชน และแฟนบอลที่ล้วนแต่เทิดทูนกุนซือชาวไทยรายนี้ ต่างก็ชื่นชอบ “ซิโก้” เพราะเขาเป็นกันเอง และมีรอยยิ้มกับทุกคน แม้ยามสัมภาษณ์หลังจบเกมแล้วก็ตาม อีกทั้งยังไม่เคยออกปากปฏิเสธการถ่ายภาพกับแฟนบอลแต่อย่างใด เรื่องนี้แฟนบอลไทยเองก็น่าจะคุ้นเคยดี หากว่ามีเวลามากพอเขาไม่เดินหนีไปไหนแน่
ตอนนี้ผมเริ่มนึกถึงข้อความที่ภรรยาของ “ซิโก้” เคยโพสต์ถึงการรับงานครั้งนี้ว่า “อยู่ในที่ที่มีคุณค่า” ก็เห็นจริงตามนั้นแหละครับ…
เผยแพร่: 3 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.