Thailand Sport Magazine Sponsored

หมดสงสัย “กาเนโล-สามจี” / ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์

Thailand Sport Magazine Sponsored
Thailand Sport Magazine Sponsored

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   


คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”

เปิดศึก “ภาค 3 กันไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับมวยคู่หยุดโลก “ไอ้หัวขิง” ซาอูล อัลวาเรซ “กาเนโล” ยอดมวยเบอร์ 1 ของโลกชาวเม็กซิกัน กับราชาน็อกเอ๊าท์ชาวคาซักสถาน “สามจี” เกนนาดี้ โกลอฟกิ้น ที่สังเวียนที-โมบายล์ อารีน่า ในเนวาด้า เมื่อค่ำวันเสาร์ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา ตรงกับสายๆ วันอาทิตย์บ้านเรา น่าเสียดายที่คุ่นี้ไม่มีการถ่ายทอดสดทางทีวีให้แฟนๆ ได้ชมกัน แฟนๆ ชมได้ผ่านทางสตรีมของดาโซนเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ทั้งคู่พบกันมา 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกเมื่อปี 2017 โดยตอนนั้น “สามจี” เป็นเจ้าของเข็มขัดโลกในรุ่นมิดเดิ้ลเวท 160 ปอนด์ของ 3 สถาบันคือ WBA, WBC และ IBF ผลปรากฏว่าคะแนนออกสามหน้า กรรมการให้อัลวาเรซชนะท่านหนึ่ง ให้โกลอฟกิ้นชนะท่านหนึ่ง และให้เสมอกันอีกท่านหนึ่ง เรียกว่าออกหน้าไหนก็ได้ แต่ตามสายตาของแฟนๆ ส่วนใหญ่ รวมทั้งนักข่าวกีฬาจำนวนมากเห็นว่าราชาน็อกเอ๊าท์ชาวคาซักสถานน่าจะชนะมากกว่า พอมาไฟต์ที่สอง คะแนนออก “ไอ้หัวขิง” 2 เสียง เสมอ 1 เสียง ทำให้ยอดมวยเม็กซิกันเอาชนะไปได้ และคว้าเข็มขัดโลกของ WBC กับ WBA มาครอบครอง

จากนั้นด้วยสถานการณ์ของโรค “โควิด-19” และการเจรจาที่ดึงเชงกันไปมา ทำให้ศึก “ภาค 3” ของทั้งคู่เพิ่งมาระเบิดได้เมื่อวันอาทิตย์อย่างที่บอก แถมคราวนี้ขยับมาพบกันในพิกัดซูเปอร์มิดเดิ้ลเวท 168 ปอนด์ด้วย งานนี้บอกตรงๆ ว่า “ไอ้หัวขิง” แม้จะมาจากรุ่นที่เล็กกว่า แต่กลายเป็นฝ่ายได้เปรียบไปแล้ว เพราะโกลอฟกิ้นนั้นชกในพิกัด 160 ปอนด์มาตลอดอาขีพ ไม่เคยขึ้นมาเลย ส่วนอัลวาเรซนั้นหลังๆ มั่นใจขนาดปล่อยน้ำหนักขึ้นไปถึง 175 ปอนด์มาแล้ว เรียกว่ารู้น้ำหนักหมัดหมดแล้ว และน่าจะมั่นใจความเร็วและพลังหมัดของตัวเองด้วย นอกจากนั้นการที่ไฟต์นี้ล่าช้ามาถึงปีนี้ ทำให้ “สามจี” นั้นอายุปาเข้าไป 40 ปีแล้ว แถมไฟต์ล่าสุดก็ฟอร์มไม่สวย งานนี้หลายฝ่ายหวาดเสียวว่าราชาน็อกเอ๊าท์ชาวคาซักสถานจะถึงขั้นเป็นฝ่ายโดนนับโดนน็อกหรือไม่ ภาพการชกโกลอฟกิ้นอืดอาดเชื่องช้าไปเยอะ รวมทั้งอาจจะระวังตัวมากเกินไปไม่ค่อยออกหมัด ส่วน “กาเนโล” ทำได้ดีกว่าแต่ก็ไม่เร่ง สุดท้ายครบยกชนะไปแบบเอกฉันท์ 115-113, 115-113 และ 116-112

ไฟต์นี้กรรมการโดนอีกว่าให้คะแนนยังไงถึงเบียดกันขนาดนี้ เพราะอัลวาเรซนั้นคุมเกมการชกไว้ได้หมด ส่วนโกลอฟกิ้นนั้นออกหมัดก็น้อย ที่ออกก็ติดการ์ดเป็นส่วนใหญ่ เรียกว่าถ้านักชกเม็กซิกันจะชนะถึง 119-109 ขนาดนั้นเลยก็ไม่แปลก เรียกว่าไฟต์นี้ก็หมดสงสัยกันไปสำหรับนักชกคู่อาฆาตคู่นี้ ภาพที่ประทับใจก็คือเมื่อการชกจบลง ทั้งคู่สวมกอดกันและกล่าวยกย่องซึ่งกันและกัน แม้ว่าตลอดเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมาจะสาดโคลนใส่กันสร้างภาพเป็นคู่อาฆาตกัน แต่เมื่อจบลงก็ยกย่องให้เกียรติกัน จากนี้ทางโกลอฟกิ้นบอกว่ายังมีไฟจะชกต่อ โดยจะกลับมาป้องกันเข็มขัดโลกในรุ่น 160 ปอนด์ของ IBF และเส้นเล็กๆ ของ IBO อีกเส้นหนึ่งที่ยังครอบครองอยู่ ส่วนอัลวาเรซนั้นน่าจะอยากไปแก้มือกับดมิทรี บิวอล แชมป์โลกชาวรัสเซียในรุ่น 175 ปอนด์ของ WBA อีกที หลังจากไฟต์ที่แล้วขึ้นไปแพ้มาหมดรูป ในส่วนของอัลวาเรซนั้นต้องยอมรับว่าเป็นยอดมวยเบอร์ 1 ของโลกมายาวนาน แต่เสียดายที่ในประวัติการชกของพี่แกทุกครั้งที่มีคนพูดถึง ก็จะต้องพูดถึงศึกไตรภาคกับโกลอฟกิ้น และมีหมายเหตุต่อท้ายว่าไฟต์แรกเสมอแบบน่าแพ้ และรอจนโกลอฟกิ้นหมดสภาพถึงเอาชนะได้แบบเด็ดขาด ก็เสียดายที่มีรอยด่างเล็กๆ แบบนี้จริงๆ

Thailand Sport Magazine Sponsored
ผู้สื่อข่าว กีฬา

ข่าวกีฬา นักกีฬา กีฬา ในร่ม indoor outdoor ต้องทำ sport ให้เป็น กีฬา หลักของประเทศ ดูข้อมูล กอล์ฟ บาสเก็ตบอล ฟุตบอล ว่ายน้ำ วอลเล่ย์บอล มวย แข่งรถ แบดมินตัน และ อีสปอร์ต Dedicated to all sport news from Thailand, with news updates, stories and event reports on many different types of sporting activities that the Thailand currently holds, across all of the asia.

This website uses cookies.