เผยแพร่: ปรับปรุง:
คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
อเมริกัน เกมส์ ตลาดฟรีเอเจนต์ของศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) เริ่มซบเซาหลังตัวดังๆ ต่อสัญญาราคาแพง นอกเหนือจาก เควิน ดูแรนท์ ซูเปอร์สตาร์ บรูกลิน เน็ตส์ ยื่นขอเทรด ซึ่งสถานการณ์ของ “เคดี” น่าจะต้องรอดูกันยาวๆ เพราะ เน็ตส์ ต้องพิจารณาถึงผลประโยชน์สูงสุดเป็นหลัก ยังมี โดโนแวน มิตเชลล์ การ์ดดีกรี ออล-สตาร์ อีกรายหนึ่ง ที่ทำท่าว่าจะแยกทาง ยูทาห์ แจซซ์
ก่อนหน้า แจซซ์ เพิ่งปล่อย รูดี โกแบร์ต เซ็นเตอร์ชาวฝรั่งเศส ไป มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส กอปรกับ ควิน สไนเดอร์ เฮดโค้ช ลาออกจากตำแหน่ง แน่นอนว่า มิตเชลล์ คงไม่ทนอยู่กับทีมที่กำลังถอยหลังลงคลอง และไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหน กว่าจะกลับมาเข้าเพลย์ออฟ แล้วขยับสู่การลุ้นแชมป์ เนื่องจากมันขัดแย้งกับวิถีมืออาชีพที่เล่นเพื่อความสำเร็จ จึงอาจเป็นสาเหตุที่ ยูทาห์ ต้องยอมเสียซูเปอร์สตาร์ของแฟรนไชส์อีก 1 คน
ไม่ต้องสงสัยว่า นิว ยอร์ก นิกส์ เป็นทีมหนึ่งที่ต้องการ มิตเชลล์ ตามภูมิลำเนาของผู้เล่น และเป็นทีมที่มีความพยายามล่าซูเปอร์สตาร์เข้าสู่ถิ่นเมดิสัน สแควร์ การ์เดน บวกกับสเปคของ ผลผลิตจากมหาวิทยาลัยหลุยส์วิลล์ ด้านทำสกอร์ และประสบการณ์เพลย์ออฟ น่าจะกอบกู้แฟรนไชส์จากซีซันอันน่าผิดหวัง
ฤดูกาล 2021-22 ที่ผ่านมา ควรเป็นซีซันที่ นิกส์ ต่อยอดจากการเข้าเพลย์ออฟครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2013 ทว่าจบด้วยสถิติ ชนะ 37 แพ้ 45 พวกเขาจำเป็นต้องมีตัวปิดสกอร์ที่ไว้วางใจได้ หากพิจารณาผลงานของ มิตเชลล์ ซัดเฉลี่ย 23.9 แต้ม และยิง 3 คะแนน 36.1 เปอร์เซ็นต์ น่าจะเพิ่มประสิทธิภาพเกมบุก ซึ่งรั้งอันดับ 26 ของลีก เฉลี่ยแค่ 106.5 แต้ม และเรตติงเกมบุกอันดับ 23 ของลีก 109.7
การเซ็นสัญญา จาเลน บรันสัน จาก ดัลลัส มาเวอริกส์ ช่วงออฟซีซันที่ผ่านมา น่าจะยังไม่ใช่คำตอบสุดท้ายสำหรับการแย่งชิงอันดับของสายตะวันออก หรือสร้างความแตกต่างใดๆ กับผู้เล่นชุดเดิม แต่ถ้าดึง มิตเชลล์ มาประสานงาน จูเลียส แรนเดิล ฟอร์เวิร์ด และ อาร์เจ บาร์เร็ตต์ การ์ดอนาคตไกล ฟังดูอาจเป็นรากฐานของการกลับสู่เพลย์ออฟ แม้ว่าจะยังห่างไกลทีมระดับท็อปของคอนเฟอเรนซ์อย่าง มิลวอกี บัคส์, ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส, บอสตัน เซลติกส์ รองแชมป์ และ ไมอามี ฮีต
อย่างไรก็ตาม นิกส์ ยังมีคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง ไมอามี ที่กำลังมองหาจิ๊กซอว์ชิ้นหนึ่ง เพื่อความสมบูรณ์แบบ พวกเขาเป็นทีมดีสุดของสายตะวันออก ช่วงฤดูกาลปกติ 2021-22 และทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศของคอนเฟอเรนซ์ 2 จาก 3 ซีซันล่าสุด รวมเข้ารอบชิงชนะเลิศ NBA ปี 2020 ตามนโยบาย ฮีต สร้างทีมด้วยผู้เล่นที่ไม่ถูกดราฟต์ หรือโปรโมตจากลีกรอง แต่พอเจอคู่ต่อสู้ที่แกร่งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเข้าเพลย์ออฟรอบลึกๆ มักแสดงให้เห็นว่า พวกเขายังขาดจุดๆ หนึ่งสำหรับก้าวสู่ตำแหน่งแชมป์
มิตเชลล์ น่าจะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นดังกล่าว ด้วยเกรดที่เหนือกว่า แม็กซ์ สตรัส หรือ ดันแคน โรบินสัน ในฐานะตัวทำสกอร์หลักที่มีฟอร์มสม่ำเสมอกว่า และความสามารถเกมบุกของเขา ยังส่งผลให้ จิมมี บัตเลอร์ ฟอร์เวิร์ดประสบการณ์สูง กับ แบม อเดบาโย เซ็นเตอร์ โฟกัสการทำหน้าที่อื่นๆ บนสนามมากกว่าเดิม อาทิ เกมป้องกัน หรือแย่งรีบาวน์ด
นอกเหนือจากรูปเกมบนสนาม ยังมีประเด็นเกี่ยวกับ “ทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด (conspiracy theories)” ระหว่าง ไมอามี กับ ยูทาห์ คือ ดีเวย์น เหว็ด การ์ดชุดแชมป์ 3 สมัยของ ฮีต ปี 2006, 2012 และ 2013 เข้ามาเป็นหุ้นส่วนของ แจซซ์ ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2021 แถมยังสนิทสนมกับ มิตเชลล์ เจ้าของสมญา “สไปดา (Spida)” เหมือนพี่น้อง
ส่วนตัวเต็งรายอื่นๆ บรูกลิน เน็ตส์ กำลังเซ็งอาการติสต์ของ คายรี เออร์วิง แม้ว่าจะมีการใช้ เพลเยอร์ อ็อปชัน ฤดูกาล 2022-23 แต่ไม่ได้การันตีว่า จะไม่โดนเทรดทิ้ง เพียงแต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีสิทธิ์ดำเนินการแบบ เซ็นสัญญาแล้วเทรด (sign-and-trade) จึงกลายเป็นอุปสรรค และการดึง มิตเชลล์ เข้ามาอาจส่งผลให้ ดูแรนท์ เปลี่ยนใจยอมอยู่ต่อ ขณะที่ แอตแลนตา ฮอว์กส เคยมีข่าวกับ มิตเชลล์ ด้วยเช่นกัน แต่มันเกิดขึ้นก่อนการเทรด เดอจอนเต เมอร์เรย์ จาก ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส ดังนั้นทางเลือกทำธุรกิจของ แจซซ์ น่าจะมี นิกส์ กับ ฮีต ที่มีความเป็นไปได้มากสุด