คอลัมน์ สกอร์บอร์ด โดย แมวดำ
ก่อนการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2022 หรือ “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คัพ 2022” ฟาดแข้ง ตอนแรกก็มีแววว่าเราจะไม่ได้ชมการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ในเมืองไทย
แต่สุดท้ายเราสามารถได้รับชมแบบงงๆ ผ่านดีลที่ว่ากันว่าท้ายสุด และสุดท้ายจริงๆ เนื่องจากทีมชาติไทย แข่งกับ บรูไน ไปแล้วในนัดแรก ด้วยมูลค่าที่ว่ากันว่าลดจาก 76 ล้านบาท มาเหลือ 67 ล้านบาท เงินจำนวนนี้มีหลายคนบอกเก็บไว้พัฒนาฟุตบอลเด็กและเยาวชนดีกว่า แต่เมื่อเราได้รับชมแล้วก็เป็นเรื่องดี เพราะอย่างน้อยๆ จะได้เป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ของเราอยากเป็นนักฟุตบอลที่ดีในอนาคตได้
ทว่าเมื่อได้ชมถ่ายทอดสดกันจริงๆ สิ่งที่เห็นได้อย่างแรกคือ แม้ทีมชาติไทยจะไม่มีผู้เล่นแกนหลักหลายคน แต่คนที่ติดทีมชุดนี้ต่างก็มีฝีมือและฝีเท้าไม่ด้อยไปกว่ากัน เราได้เห็น ธีราทร บุญมาทัน โชว์คลาสมาทำเกมในแดนกลาง และทำได้ดีเสียด้วย โดยมี ธีรศิลป์ แดงดา ที่ยิงจนกลายเป็นตำนานกองหน้าของอาเซียนไปแล้ว
นอกจากนี้ตัวเก๋าเรายังเห็นฟอร์มดาวรุ่ง เอกนิษฐ์ ปัญญา, ปรเมศย์ อาจวิไล, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, กฤษดา กาแมน ที่เป็นเจนต่อไปของทัพ “ช้างศึก” ในอนาคต
ส่วนเรื่องที่น่าเสียดายคือการที่ฟุตบอลรายการนี้ที่พยายามจะยกระดับตัวเองเพียงแค่ขึ้นค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด แต่กลับไร้การนำเทคโนโลยี VAR สำหรับช่วยตัดสินมาใช้ ซึ่งนัดที่ตกเป็นที่วิจารณ์ไปทั่วโลก เป็นนัดที่ มาเลเซีย บุกแพ้ เวียดนาม 0-3 มีหลายจังหวะค้างคาใจมาก แม้แต่สื่อเวียดนามบางสำนักก็ยังพูดถึงเลย
นอกจากนี้การถ่ายทอดสดจังหวะไหนที่นักเตะเวียดนาม กระทำคู่แข่ง ภาพช้าชัดๆ ซูมใกล้ๆ ก็ไม่มีให้เห็นเลย ขนาดคลิปการแข่งขันผ่านช่องยูทูบอย่างเป็นทางการของฝ่ายจัด จังหวะ ดวน วาน เฮา กระแทก อาซมี่ นักเตะ มาเลเซีย กระเด็นจากสนามยังไม่มีการตัดมาให้ชม มีแต่จังหวะที่ วาน เฮา โดนย่ำหน้าไปแล้ว
คิดดูแล้วกันว่า เมื่อนักเตะ มาเลเซีย เจอจังหวะแบบนี้บ่อยๆ หากรอบชิงชนะเลิศ คู่นี้กลับมาเจอกันอีก มันจะเดือดขนาดไหน … ตอนนี้เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนคงเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมฟุตบอลอาเซียนไปไม่ถึงไหนก็คงเพราะการตัดสิน และจัดโปรแกรมที่ไม่เป็นธรรมนี่แหละ
เผยแพร่: 3 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.