สตีเว่น เฮ็นดรี่ ผู้หิวแสง กลับมาแล้ว / กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

ใครต่อใครเรียกชื่อหมอนี่ผิดเป็น สตีเฟ่น เฮ็นดรี่ มาตั้งนาน ชื่อของนักสอยคิวชาวสก๊อทแลนด์ วัย 52 ปี รายนี้ที่เขียนว่า “Stephen” นั้น ภาษาอังกฤษเขาออกเสียงว่า “สตีเว่น” ต่างหาก พี่ไทยจะตั้งหน้าตั้งตากำหนดให้อักษรไทยตัวนั้นตัวนี้มาใช้แทนอักษรภาษาต่างประเทศอย่างตายตัวทุกกรณีไม่ได้หรอกครับ ภาษาของใครก็ย่อมมีการอ่านออกเสียงและข้อยกเว้นของเขา นี่หลังจากที่ประกาศวางคิวเลิกตระเวนแข่งขันอาชีพไปแล้วตั้งแต่กลางปี 2012 ตอนนี้ สตีเว่น เฮ็นดรี่ (Stephen Hendry) ตัดสินใจหวนคืนสู่ผืนสักหลาดอีกครั้ง คงทนหิวแสงไม่ไหวแล้ว

ในยุคปี 90 สนุกเก้อร์ได้รับความนิยมมาก เป็นกีฬายอดฮิทในเมืองไทย อันนี้ก็ด้วยอานิสงส์ของ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” รัชพล ภู่โอบอ้อม หรือชื่อเดิม วัฒนา เจ้าของฉายา “ไทยทอร์เนโด” (Thai Tornado) ที่สร้างผลงานด้วยลีลาการสอยคิวแต่ละฉ็อทอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ได้ขึ้นสู่อันดับ 3 ของโลก จนชื่อ เจมส์ วัฒนา (James Wattana) เป็นที่รู้จักกันในวงการสนุ้กเก้อร์โลก แต่ในขณะนั้น มือ 1 ของโลกต้องยกให้ สตีเว่น เฮ็นดรี่ นักสนุ้กเก้อร์ในวัยไล่เลี่ยกับ ต๋อง เขาแก่กว่าเพียงปีเดียว แต่โลดแล่นในวงการสนุ้กเก้อร์อาชีพตั้งแต่ปี 1985 ก่อนกันตั้ง 4 ปี อย่างไรก็ตาม ยุคที่ สตีเว่น เริ่มขึ้นสู่อันดับ 1 ของโลกมันคือยุคปี 90 ที่ ต๋อง เริ่มเล่นอาชีพมาได้ปีหนึ่งแล้ว

สตีเว่น เริ่มหัดเล่นสนุ้กเก้อร์ตั้งแต่ 12 ขวบ คว้าแช้มพ์ระดับเยาวชนและระดับสมัครเล่นมาชุ่ยเลย จนก้าวเข้าสู่ระดับอาชีพเมื่ออายุเพียง 16 ปี 3 เดือนในปี 1985 นับว่าเป็นมืออาชีพที่อายุน้อยที่สุดในโลก ในช่วงปี 1989-99 เข้าสู่ยุครุ่งเรืองของเขา ได้ตำแหน่งแช้มพ์โลกหนแรกด้วยวัยเพียง 21 ปี โดยคว้าแช้มพ์สนุ้กเก้อร์ชิงแช้มพ์โลก (Embassy World Snooker Championship) ที่ ครูซิเบิ้ล เธียร์เต้อร์ (Crucible Theatre) ใน เช้ฟฟีลด์ ประเทศอังกฤษ ได้ในปี 1990 ครองสถิติโลกในฐานะเป็นนักสนุ้กเก้อร์ที่อายุน้อยที่สุดที่คว้าแช้มพ์รายการนี้ ซึ่งรวมตลอดอาชีพโดยเฉพาะในช่วงนี้ เขาคว้าแช้มพ์โลกมาได้ 7 ครั้ง เหนือกว่าทั้ง ร็อนนี่ โอ’ซัลลิแวน (Ronnie O’Sullivan) สตี๊ฟ เดวิส (Steve Davis) และ เรย์ เรียร์เดิ้น (Ray Reardon) ที่ทำได้คนละ 6 สมัย คงไม่ต้องสงสัยกับฉายา ราชาแห่ง ครูซิเบิ้ล (The King of the Crucible) นะครับ

ในยุคปี 90 ใครที่ต้องโคจรมาเจอกับนักสอยคิวที่ตอนนั้นมีผมสีทองเหมาะเจาะกับอีก 1 ฉายาคือ เดอะ โกลเดิ้น บอย (The Golden Boy) ก็ต้องเครียด เพราะยากที่จะผ่านหมอนี่ไปได้ หากพลาดเพียงไม้เดียวก็ค่อนข้างแน่นอนที่จะเสียเฟรมนั้นไปเลย รวมตลอดอาชีพ สตีเว่น เป็นแช้มพ์รายการสะสมคะแนน 36 รายการ รายการที่ไม่สะสมคะแนนอีก 39 รายการ เขาทำสกอร์ในไม้เดียว 100 คะแนนขึ้นไปที่เรียกว่า เซ็นจูรี่ เบรค (Century break) ได้ 776 ครั้ง ทำ 147 คะแนนในไม้เดียวซึ่งเป็นสกอร์สูงสุดที่สามารถทำได้ในสนุ้กเก้อร์ (Maximum break) ได้ทั้งสิ้น 11 ครั้ง ถึงตอนนี้สถิติดังกล่าวโดน ร็อนนี่ โอ’ซัลลิแวน แซงไปเรียบร้อย โดยทำสถิติโลกเบรคสูงสุดที่ 15 ครั้ง และ เซ็นจูรี่ เบรค 1,097 ครั้ง ซึ่งเป็นนักสอยคิวคนเดียวที่ผ่านหลักพันครั้งมาได้ อย่างไรก็ตาม สตีเว่น ยังเป็นเจ้าของสถิติรั้งอันดับ 1 ของโลกมากที่สุดถึง 9 ฤดูกาล

ในบรรดาสนุ้กเก้อร์รายการต่างๆของโลกนั้นมี 3 รายการที่นับว่ายิ่งใหญ่มากคือ The World Championship, The UK Championship และ The Invitational Masters รวมเรียกว่า ทริพเพิ่ล คราวน์ (Triple Crown) สตีเว่น ก็คว้ารายการระดับนี้มาได้ 18 รายการ แม้ว่าจะถูก ร็อนนี่ แซงไปอีกแล้วด้วยจำนวน 20 รายการ แต่ สตีเว่น ก็เป็น 1 ในเพียง 3 คน ร่วมกับ สตี๊ฟ เดวิส และ มาร์ค วิลเลี่ยมส์ ที่คว้าทริพเพิ่ล คราวน์ 3 รายการมาได้ในฤดูกาลเดียวกัน และเขาเป็นคนเดียวในโลกทำได้ 2 ฤดูกาลด้วย
ในเดือนพฤษภาคม 2012 หลังจากรายการชิงแช้มพ์โลก สตีเว่น ประกาศเลิกเล่นอาชีพโดยให้เหตุผลว่า เริ่มมีอาการทักษะหดหาย กล้ามเนื้อไม่จดจำน้ำหนักและทิศทาง สูญเสียความมั่นใจในทุกฉ็อท ที่เรียกว่า เดอะ ยิบส์ (The Yips) มานานถึง 12 ปีแล้ว อันเป็นสาเหตุให้ฟอร์มตกอย่างมาก อาการดังกล่าวมักเกิดกับนักกีฬานานาชนิด ซึ่งความจริงก็ตัดสินใจว่าจะเลิกอาชีพมาตั้ง 3 เดือนก่อนหน้านี้แล้ว จากนั้นก็ผันตัวมาเป็นผู้บรรยายให้กับ BBC และ ITV นี่ว่างเว้นผืนสักหลาดมา 9 ปีเต็ม เสียงปี่กลองเรียกร้อง วันนี้เขากลับมาแล้วครับ เริ่มรายการแรก จิ๊บร็อลต้า โอเพิ่น (Gibraltar Open) เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี่เอง พร้อมกับอันดับโลกล่าสุด 128 รอไต่ขึ้นสู่ท้อพเท็นครับ