“ลิเวอร์พูล” นำ 2 ครั้งไม่ชนะ โดน “แมนฯซิตี้” ไล่เจ๊า 2-2 ชวดขึ้นจ่าฝูง

ลิเวอร์พูล นำ 2 ครั้ง 2 หน แต่ไม่ชนะ โดนทีเด็ดของ เควิน เดอ บรอยน์ ซัดประตูสำคัญช่วง 10 นาทีสุดท้าย ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่ตามตีเสมอไปแบบสุดมัน 2-2 แบ่งกันไปทีมละแต้ม พร้อมฉุด “หงส์แดง” ชวดขึ้นจ่าฝูง

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2021/22 วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม 2564 เกมบิ๊กแมตช์ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์เก่า

ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งบุกต้อน เอฟซี ปอร์โต 5-1 ในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ เกมนี้จัดทัพชุดใหญ่ลงสนาม นำโดย 3 ประสานเกมรุก อย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิโอโก โชตา และซาดิโอ มาเน่

ด้าน แมนฯ ซิตี้ ของยอดกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เมื่อกลางสัปดาห์เพิ่งบุกไปพ่าย ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 0-2 ในฟุตบอลยุโรป เกมนี้วาง กาเบรียล เชซุส, แจ็ค กรีลิช และฟิล โฟเดน เป็นทีเด็ดในแดนหน้า

ครึ่งเวลาแรกทั้งสองทีมเปิดเกมบุกแลกกันอย่างสนุก แม้เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล จะครองบอลได้มากกว่าเล็กน้อยในช่วงต้นเกม แต่ผ่านพ้นไป 15 นาทีหลังจากนั้นเป็นทีมเยือนที่ดูจะเหนือกว่า มีโอกาสลุ้นประตูได้มากกว่า แต่ทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ จบ 45 นาทีแรก เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0

ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล แก้เกมมาได้ดี และก็มาได้ประตูออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 59 จากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แตะหลบ เจา กานเซโล ก่อนไหลให้ ซาดิโอ มาเน่ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แปสวนตัวเอแดร์ซอน เข้าไป

น.69 แมนฯ ซิตี้ ที่เดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง ก็มาได้ประตูตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ กาเบรียล เชซุส เลี้ยงเลาะเข้ามาหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจ่ายออกซ้ายให้ ฟิล โฟเดน หลุดเข้าไปในเขตโทษ และซัดหนีมือ อลิสซอน เบคเกอร์ เข้าไป

น.76 ลิเวอร์พูล ขยับขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 จากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เลี้ยงเลาะมาในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนกระชากเข้าขวาแล้วซัดเบียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม

น.81 แมนฯ ซิตี้ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มาได้ประตูไล่ตามตีเสมออีกครั้ง 2-2 จากจังหวะซัดไกลของ เควิน เดอ บรอยน์ หน้ากรอบเขตโทษ ที่ยิงแบบไม่ต้องจับ บอลไปแฉลบโฌเอล มาติป เข้าไป

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปอย่างสนุก 2-2 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งคะแนน

จากผลเสมอดังกล่าวทำให้ “หงส์แดง” มีเพิ่มเป็น 15 แต้ม รั้งอันดับ 2 ตามหลังจ่าฝูง เชลซี 1 คะแนน ส่วน “เรือใบสีฟ้า” มีเพิ่มเป็น 14 แต้มเท่ากับ แมนฯ ยูไนเต็ด, เอฟเวอร์ตัน และไบร์ทตัน แต่รั้งอันดับ 3 ของตาราง เนื่องจากลูกได้เสียดีกว่า

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : อลิสซอน เบคเกอร์ (GK), เจมส์ มิลเนอร์, โฌเอล มาติป, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เคอร์ติส โจนส์, ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิโอโก โชตา

แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน (GK), ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, อายเมริค ลาปอร์ต, เจา กานเซโล, โรดรี, แบร์นาร์โด ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเดน, แจ็ค กรีลิช, กาเบรียล เชซุส