Thailand Sport Magazine Sponsored

รู้จัก “โคตะ มิอุระ” ลูกชายตำนานนักบอล “คิง คาซู” กำปั้นรูปหล่อบาดใจสาวๆ

Thailand Sport Magazine Sponsored
Thailand Sport Magazine Sponsored


แฟนหมัดมวยสาวๆ ต้องกระชุ่มกระชวยเมื่อได้เห็น โคตะ มิอุระ กำปั้นชาวญี่ปุ่นวัย 19 ปี ที่เพิ่งขึ้นสังเวียนชกไปในช่วงสิ้นปีวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา ในรายการ Rizin FF – Rizin 33 ในกติกาศิลปะการต่อสู้แบบผสม หรือ MMA

โดยในไฟต์ดังกล่าว โคตะ มิอุระ เอาชนะน็อก ยูชิ ซากุระ ไปแบบสวยสดงดงามตั้งแต่ยกแรกของการแข่งขัน และมีภาพของเจ้าตัวปรากฎบนหน้าสื่อ ถูกส่งต่อในโลกออนไลน์ถึงใบหน้าอันหล่อเหลาถูกใจสาวๆ เป็นอย่างมาก


หลายคนอาจสงสัยว่า โคตะ มิอุระ เป็นใครมาจากไหน ซึ่งถ้าเป็นแฟนกีฬาฟุตบอลญี่ปุ่นอาจจะคุ้นๆ กับนามสกุลอยู่บ้าง ใช่แล้ว เขาคือลูกชายแท้ๆของ คาซึโยชิ มิอุระ หรือ “คิง คาซู” นักฟุตบอลระดับตำนานชาวญี่ปุ่น

ปัจจุบัน “คิง คาซู” ในวัย 54 ปี ปัจจุบันยังไม่ได้แขวนสตั๊ด โดยมีสัญญาอยู่กับ โยโกฮาม่า เอฟซี ที่เพิ่งตกชั้นไปในเจลีก 2 และเจ้าตัวเพิ่งจะถูก ซูซูกะ พอยท์ เก็ตเตอร์ส ทีมในลีกล่าง ยืมตัวไปใช้งาน ในซีซั่นที่กำลังจะเปิดฉากขึ้น

ตัดกลับมาที่ โคตะ มิอุระ ถึงแม้คุณพ่อของเขาจะเป็นนักฟุตบอลระดับตำนานทีมชาติญี่ปุ่น และเจ้าตัวก็เคยฝึกซ้อมในกีฬาลูกหนังอยู่บ้าง แต่ดูเหมือนว่าเขาชื่นชอบในกีฬามวยมากกว่า โดยคุณพ่อของเขาชอบดูมวยตั้งแต่เขาจำความได้ และนั่นก็ทำให้เขาซึมซับสิ่งต่างๆเหล่านี้มาโดยตลอด


พอถึงชั้นมัธยมศึกษา “โคตะ” ตัดสินใจร่ำเรียนวิชาศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวอย่างจริงจัง จนเมื่อเรียนจบก็ได้เข้าไปอยู่ภายใต้สังกัด Brave ก้มหน้าก้มตาฝึกซ้อมจนเชี่ยวชาญ และได้โอกาสขึ้นชกเปิดตัวในวันที่ 31 ธันวาคม 2021

สำหรับแฟนๆ ที่อยากจะติดตามผลงาน และติดตามไลฟ์สไตล์ต่างๆ ของ โคตะ มิอุระ สามารถเข้าไปฟอลโลว์พ่อหนุ่มนักมวยวัย 24 ปีรายนี้กันได้ที่อินสตาแกรม kota_miura_official

Thailand Sport Magazine Sponsored
ผู้สื่อข่าว กีฬา

ข่าวกีฬา นักกีฬา กีฬา ในร่ม indoor outdoor ต้องทำ sport ให้เป็น กีฬา หลักของประเทศ ดูข้อมูล กอล์ฟ บาสเก็ตบอล ฟุตบอล ว่ายน้ำ วอลเล่ย์บอล มวย แข่งรถ แบดมินตัน และ อีสปอร์ต Dedicated to all sport news from Thailand, with news updates, stories and event reports on many different types of sporting activities that the Thailand currently holds, across all of the asia.

This website uses cookies.