เอ็มม่า ราดูคานู นักเทนนิสสาวดาวรุ่งวัย 18 ปี เดินหน้าสร้างเซอร์ไพรส์ต่อเนื่อง หลังปราบ เบลินดา เบนซิช เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ไป 2-0 เซต กลายเป็นนักหวดจากรอบควอลิฟายคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ผ่านเข้ารอบตัดเชือก ยูเอส โอเพ่น ได้สำเร็จ
ศึกเทนนิสแกรนด์สแลม รายการสุดท้ายของปี “ยูเอส โอเพ่น 2021” ณ สังเวียนยูเอสทีเอ บิลลี ยีน คิง เนชั่นแนล เทนนิส เซ็นเตอร์ เมืองนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา วันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบ 8 คนสุดท้าย
ประเภทหญิงเดี่ยว ที่อาเธอร์ แอช สเตเดียม เอ็มม่า ราดูคานู นักหวดสาวดาวรุ่งวัย 18 ปี มือ 150 ของโลกชาวสหราชอาณาจักร ยังเดินหน้าสร้างเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง ไล่ต้อนเอาชนะ เบลินดา เบนซิช มือ 12 ของโลกจากสวิตเซอร์แลนด์ และเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่น ไป 2 เซตรวด 6-3, 6-4 ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 25 นาที ตบเท้าผ่านเข้าสู่รอบ 4 คนสุดท้ายไปรอพบผู้ชนะระหว่าง คาโรไลน่า พลิสโคว่า จากเช็ก หรือ มาเรีย ซาคคารี จากกรีซ
“ฉันมีความสุขมากที่สามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบตัดเชือก สำหรับ เบลินดา เธอเป็นคู่ต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม และกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี มีสปีดการตีที่หนักหน่วง และทำให้ฉันไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นฉันต้องปรับตัวเยอะมากเวลาเล่นกับเธอ แต่ฉันก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และหลังจากนั้นฉันจะได้เดินทางต่อด้วยตัวเอง” ราดูคานู กล่าว
จากชัยชนะในแมตช์นี้ของหวดสาวดาวรุ่งจากสหราชอาณาจักร ทำให้เธอกลายเป็นนักเทนนิสจากรอบควอลิฟายที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศยูเอส โอเพ่น ได้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์
โดย ราดูคานู ยังถือเป็นนักเทนนิสหญิง คนที่ 4 ที่มาจากรอบควอลิฟาย แต่สามารถผ่านเข้าไปตัดเชือกในรายการระดับแกรนด์สแลม ต่อจาก คริสติน โดเรย์ (ออสเตรเลียน โอเพ่น 1978), อเล็กซานดรา สตีเวนสัน (วิมเบิลดัน 1999) และนาเดีย โปดอรอสกา (เฟรนช์ โอเพ่น 2020)
นอกจากนี้เธอยังเป็นนักเทนนิสหญิงคนที่ 3 ที่แรงกิ้งอยู่นอกท็อป 100 แต่สามารถเข้าสู่รอบรองชนะเลิศยูเอส โอเพ่น ได้สำเร็จ ต่อจาก บิลลี ยีน คิง ในปี 1979 และคิม ไคลส์เตอร์ส ในปี 2009 ซึ่งในรายหลังเธอสามารถคว้าแชมป์ในปีนั้นไปครองได้อีกด้วย
เผยแพร่: 3 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.