ยอดโปรกอล์ฟชั้นนำของเอเชียน ทัวร์ ตบเท้าเข้าประชันวงสวิงศึก รอยัลส์ คัพ ชิงเงินรางวัลรวม 4 แสนเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 13.2 ล้านบาท แข่งขันระหว่างวันที่ 24-27 กุมภาพันธ์นี้ ที่สนามกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นรายการที่ 2 ของเอเชียนทัวร์ในฤดูกาลนี้
เอเชียน ทัวร์ ร่วมกับ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) จัดศึก รอยัลส์ คัพ ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในสัปดาห์หน้า เป็นการดวลวงสวิงของเหล่ายอดฝีมือของทัวร์อย่าง คิม จูฮยุง มือหนึ่งเอเชียนทัวร์ฤดูกาลที่แล้วจากเกาหลีใต้, สกอตต์ เฮนด์ อดีตแชมป์เอเชียนทัวร์ 10 รายการ และผู้เล่นทำเงินสูงสุดของเอเชียน ทัวร์ ปี 2016 จากออสเตรเลีย, จอห์น คัทลิน เจ้าของแชมป์เอเชียนทัวร์ 4 รายการชาวอเมริกัน และ ชีฟ คาปูร์ แชมป์เก่าเมื่อปี 2017 จากอินเดีย ด้านนักกอล์ฟไทยนำโดย โปรแจ๊ส-อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ อดีตมือหนึ่งเอเชียนทัวร์ ปี 2019, สดมภ์ แก้วกาญจนา แชมป์ เอสเอ็มบีซี สิงคโปร์ โอเพ่น เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และ พชร คงวัดใหม่ เอเชียนทัวร์ที่ภูเก็ตเมื่อปลายปีที่แล้ว
ทั้งนี้ คิม, คัทลิน และสดมภ์ ถือเป็นนักกอล์ฟที่มีอันดับโลกสูงสุดในรายการนี้ โดยปัจจุบัน คิม อยู่ที่อันดับ 82 ตามมาด้วย คัทลิน อันดับ 150 และสดมภ์ อันดับ 153 ซึ่งจากอันดับดังกล่าวทำให้กอล์ฟ รอยัลส์ คัพ เป็นหนึ่งในรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดรายการหนึ่งในประเทศไทย
สำหรับรายการนี้ยังไม่อนุญาตให้แฟนกอล์ฟเข้าชมในสนามเนื่องจากปัญหาการระบาดของโควิด-19 โดยจะมีการถ่ายทอดสดภายในประเทศ 2 วันสุดท้าย (26-27 ก.พ.) วันละ 3 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 13.00-16.00 น. โดยประมาณทางช่อง True Sport 5 (684) และเครือข่ายของ True Visions ไปทั่วประเทศ ซึ่งสามารถเข้าถึงผู้ชมกว่า 20 ล้านหลังคาเรือน
ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จุดประสงค์ของรายการนี้ คือการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยในฐานะที่เป็นประเทศกลุ่มเป้าหมายระดับเวิลด์คลาสในการเล่นกอล์ฟและให้โอกาสนักกอล์ฟอาชีพของไทยได้เข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติ นอกจากนั้น ยังเป็นการให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมกอล์ฟในประเทศ ช่วยสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศอีกด้วย ที่สำคัญ รายการนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) และเป็นฉลองในโอกาสที่บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินธุรกิจครบรอบ 50 ปี ในปี พ.ศ.2563 อีกด้วย”
ทางด้าน โช มินน์ ตันท์ กรรมาธิการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอเชียน ทัวร์ เผยว่า “การจัดการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเราอย่างแน่นอน พวกเรารู้สึกดีใจที่มีโอกาสจัดการแข่งขันรายการระดับเวิลด์คลาสในประเทศไทย และก็มั่นใจว่า จะเป็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นและคุ้มค่ากับการรอคอยหลังจากที่ต้องถูกเลื่อนเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดมาแล้ว ความร่วมมือระหว่างบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และเอเชียนทัวร์ จะช่วยยกระดับการแข่งขันรายการนี้ และดึงดูดนักกอล์ฟชื่อดัง รวมถึงแฟนกอล์ฟจากทั่วโลกได้ พวกเรารู้สึกภูมิใจว่ารายการนี้จะต้องเป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ในปี 2565”
นอกจากนี้ยังจะมีรางวัลพิเศษให้กับนักกอล์ฟคนแรกที่ทำโฮลอินวันได้ที่ หลุมพาร์ 3 หลุมใดหลุมหนึ่ง จากจำนวน 4 หลุม (หลุม 3, 5, 12 และ 16) และคนแรกที่ทำอัลบาทรอสได้ที่หลุม 9 และ 18 เป็นรถยนต์จากหนึ่งในผู้ให้การสนับสนุนได้แก่ โตโยต้า (Camry 2.5 HEV Premium), มิตซูบิชิ (OUTLANDER PHEV GT-Premium), มาสด้า (MazdaCX-3), MG (ALL NEW MG5 X), อีซูซุ (Isuzu X-Series Hi-Lander 4-Door 1.9 Ddi Z A/T) และโฟล์คสวาเกน (Volkswagen THAIYARNYON Caravelle Touring MNC 2022)
เผยแพร่: 3 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.