ย้อนไปไม่นานเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สาวน้อยที่ชื่อว่า ‘ปุ้ม’ พญาหงส์ อโยธยาไฟท์ยิม บุกไปสร้างชื่อที่ประเทศญี่ปุ่น ด้วยการเป็นแชมป์ K1 หญิงคนแรกในรุ่น 45 กิโลกรัมหญิง โดยเอาชนะนักสู้เจ้าถิ่น มิยุอุ สุกาวาระ ในศึก K1 เวิลด์ กรังด์ ปรีซ์ ณ โยโยกิ เนชันแนล ยิมเนเซียม ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันเสาร์ที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา ในรุ่น 45 กิโลกรัมหญิง
จากนั้น พญาหงส์ อโยธยาไฟท์ยิม ก็กลับเมืองไทยขึ้นเวทีชกมวยไทยอีกครั้งลีลายังดุดันและเร้าใจชนะทีเคโอ ลูกหมี PK เวียงจันทร์ สาวนักชกจากสปป.ลาว ในยกที่ 2 ของศึกมวยไทย และศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รายการ เลเจนด์ เอฟซี “คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน” ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) จ.นครราชสีมา ซึ่งได้มีการถ่ายทอดให้ชมกันไปแล้วทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 8 (กดเลข 27) King of Fighting Sports
ดังนั้นไปย้อนเส้นทางของสาวไทยคนนี้กว่าจะเป็นนักชกหญิงคนแรกของไทย ที่ได้เข็มขัดแชมป์โลกเส้นนี้มาครอง ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเจ้าตัวเล่าว่าในวัยเด็กมักจะถูกรุ่นพี่แกล้งเป็นประจำ จนคุณแม่ให้ไปเรียนชกมวยไทย เพื่อไว้ป้องกันตนเอง
“ตั้งแต่เด็กหนูเริ่มชกมวยไทยตั้งแต่ 9 ขวบ เพราะช่วงนั้นมันมีเหตุการณ์ที่หนูโดนรุ่นพี่แกล้งร้องไห้ กลับมาฟ้องแม่ทุกวัน แม่ก็สงสารหนูก็เลยให้หนูไปซ้อมมวยเรียนมวยไว้ป้องกันตัวเอง”
แต่เมื่อฝึกซ้อมทุกวันจนเคยชิน ทำให้น้องปุ้ม เริ่มลงแข่งขันตามเวทีต่าง ๆ และได้แชมป์แรกตอนอายุ 13 ปี ในรายการมวยไทยสมัครเล่น ชิงแชมป์ประเทศไทย จากนั้ยเธอก็ได้พบกับ “ครูดาม ศรีจันทร์” นักกีฬาทีมชาติ 5 ชนิดกีฬา คว้ารางวัลมาแล้วมากมาย อาทิ เหรียญทองจากซีเกมส์ และ มาเชียลอาร์ทเกมส์
ซึ่งครูดามก็ตัดสินใจส่งสาวน้อยวัย 14 ปี ไปชกมวยไทยที่ประเทศญี่ปุ่น แต่เมื่อดูลักษณะการชกของเธอที่จะถนัดใช้การเตะ มากกว่าศอก ชกได้ 3-4ไฟต์ ก็ลองเปลี่ยนเข้าไปชก K1 เนื่องจากเป็นรายการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
“K1 เป็นรายการใหญ่ที่ญี่ปุ่นค่ะ แบบที่พี่บัวขาวได้แชมป์มา ซึ่งมวยไทยเขาก็นิยมกันแต่ไม่ดังเท่า K1 แล้วกติกาก็แตกต่างกันนิดหน่อย เพราะมวยไทยออกอาวุธได้ทุกอย่าง แต่ K1 จะสไตล์คิกบ็อคซิ่ง คือไม่มีศอกไม่มีเข่า”
นอกจากนี้ ใครเห็นนามสกุลของเธอ ก็คงจะอดสังสัยไม่ได้ว่าเป็นอะไรกับ ลลิษา มโนบาล หรือ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ซึ่งสองคนก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกันจริง ๆ แต่ไม่เคยได้พบกัน เพราะลิซ่าไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่น้องปุ้มยังเป็นเด็ก
แม้เรื่องนี้ ในโซเชียลมีเดียของ K1 ก็หยิบยกมาบอกเล่าให้แฟน ๆ หมัดมวยทั่วโลกได้รู้จักปุ้มในอีกมุมหนึ่งด้วย แต่แน่นอนว่าเธอเฉิดฉายได้เพราะความสามารถของตัวเธอเองมากกว่า เพราะถือเป็นนักมวยหญิงไทยคนแรกที่ได้แชมป์ K1 และเป็นคนไทยคนที่ 4 ต่อจาก 3 นักมวยชายระดับตำนานอย่าง บัวขาว บัญชาเมฆ, แก้ว วีระศักดิ์เล็กยิม และ ก้องนภา วีระศักดิ์เล็กยิม เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
หลังจากนี้ พญาหงส์ มีคิวจะไปแข่งกีฬามวยไทย และศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รายการ เลเจนด์ เอฟซี ที่มี “วิว” เยาวภา เป็นโปรโมเตอร์ และหลังจากนั้นก็จะเดินทางไปญี่ปุ่นไปชกป้องกันแชมป์ K1 ซึ่งคาดว่าจะได้เจอกับคู่ชกคนเดิม นั่นก็คือ มิยุอุ สุกาวาระ นั่นเอง ซึ่งเจ้าตัวก็ยืนยันว่าอยากป้องกันแชมป์และรักษาแชมป์นี้ให้ได้นานที่สุดเท่าสุด เท่าที่จะทำได้
ส่วนทางด้าน “ครูดาม ศรีจันทร์” เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้น้องมีโอกาสได้ชิงแชมป์ครั้งนึง แต่ก็แพ้ในช่วงต่อเวลา ทีมงานก็กลับมาดูเทปการแข่งขัน และแก้ทางมวย และไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ญี่ปุ่นด้วยกัน จนชนะมาได้
“น้องมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของมวยไทยอยู่แล้ว พอมาเจอ K1 แรก ๆ ก็มีปัญหาเรื่องการปรับเปลี่ยนสไตล์ กติกา เทคนิคการซ้อม ซึ่งผมก็มีทีมงานที่ดูแลในส่วนนี้อยู่ เราก็ปรับปรุงหลายอย่าง แก้กันมาเรื่อย ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้น้องมีโอกาสได้ชิงแชมป์ครั้งนึงแต่ก็แพ้ในช่วงต่อเวลาด้วยเรื่องของกติกา เราก็กลับมาดูเทปการแข่งขัน มาศึกษาคู่ชก ฝึกซ้อมแก้ทางมวย ซึ่งผมก็ใส่ใจรายละเอียด ไปญี่ปุ่น ไปเก็บตัวด้วยกัน เราดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้น้องพัฒนาและปรับปรุงเรื่อย ๆ จนชนะมาได้” ครูดาม เผย
ส่วนเป้าหมายของ พญาหงส์ อโยธยาไฟท์ยิม จากนี้ก็คือการสร้างชื่อเสียงในศึก K1 ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก พร้อมกันนี้ยังได้ฝากถึงแฟนๆ กีฬาชาวไทย ช่วยกันเป็นกำลังใจให้สาวน้อยรายนี้ เพราะการเป็นแชมป์ว่ายากแล้วแต่การป้องกันแชมป์ให้นานที่สุดเป็นสิ่งที่ยากยิ่งกว่า แต่หากเธอทำได้สำเร็จก็จะเป็นการประกาศศักดาของนักมวยไทยให้ต่างชาติได้เห็นเพิ่มขึ้นอีกมากเลยทีเดียว
เผยแพร่: 3 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.