ทีมรับแบก “โฟร์ตีไนเนอร์ส” ย้ำแค้น “แรมส์” 7 เกมรวด

ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส เอาชนะ แอลเอ แรมส์ แชมป์เก่า ขาดลอย 24-9 ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) “มันเดย์ ไนท์” ที่สนาม ลีวายส์ สเตเดียม วันอังคารที่ 4 ตุลาคม

ดีโบ ซามูเอล ปีกนอก เปลี่ยนการรับบอลระยะสั้นเป็นทัชดาวน์ระยะ 57 หลา, ทาลานัว ฮูฟังกา ทำสกอร์จากการวิ่งย้อนอินเทอร์เซ็ปต์ และ เจฟฟ์ วิลสัน จูเนียร์ รันนิงแบ็ก ตะลุย 32 หลาถึง เอนด์ โซน ส่งผลให้ ซาน ฟรานซิสโก ยัดเยียดความปราชัยเกมที่ 7 ติดต่อกันแก่ คู่ปรับร่วมมลรัฐแคลิฟอร์เนีย เฉพาะฤดูกาลปกติ

แรมส์ สถิติหล่นเหลือ ชนะ 2 แพ้ 2 ชนะเกมที่มีความหมายมากสุด ในรอบชิงชนะเลิศ สายเอ็นเอฟซี (NFC) ฤดูกาลที่แล้ว ก้าวไปสู่แชมป์ ซูเปอร์โบว์ล 56 ทว่าการพบกันครั้งนี้รูปเกมคล้ายกับการแข่งขันช่วงฤดูกาลปกติ ช่วงไม่กี่ครั้งที่ผ่านมา

ซาน ฟรานซิสโก ใช้ทีมรับอันแข็งแกร่งต้านทานเกมบุกของ ชอน แม็คเวย์ เฮดโค้ช แรมส์ และสร้าง “บิ๊กเพลย์” ได้เพียงพอสำหรับเผด็จศึก

นิค โบซา ดีเฟนซีฟ เอนด์ ได้ 2 จาก 7 แซ็กของทีมใส่ แม็ตธิว สแตฟฟอร์ด ควอเตอร์แบ็ก กลายเป็นเจ้าของสถิติสูงสุด 6 แซ็ก ตลอดฤดูกาลนี้ และ ฮูฟังกา ตอกฝาโลงด้วย พิค-ซิกซ์ ระยะ 52 หลา ช่วงควอเตอร์ 4

บิ๊กเพลย์ของ ซามูเอล เกิดขึ้นท้ายควอเตอร์ 2 เปลี่ยนเพลย์ที่ จิมมี การ็อปโปโล ควอเตอร์แบ็ก กำลังจะเสียอินเทอร์เซ็ปต์ กลายเป็นทัชดาวน์

เดอเรียน เคนดริค คอร์เนอร์แบ็ก แรมส์ กระโดดคว้าบอลไม่อยู่ จึงเข้ามือ ซามูเอล แล้วสลัดการแท็คเกิลของ เทย์เลอร์ แร็ปป์ กับ จาเลน แรมซีย์ วิ่ง 52 หลา ถึงเอนด์ โซน ทำให้ โฟร์ตีไนเนอร์ส ขึ้นนำ 14-6

แรมส์ ครองบอลอย่างมีประสิทธิภาพในไดรฟ์การบุกชุดแรก ก่อนเสียแซ็กแก่ แซมซัน เอบูกาม จึงเกิดอาการสะดุด และต้องเตะฟิลด์โกล

ทีมบุก แรมส์ เริ่มตะกุกตะกักนับจากนั้น และการทำสกอร์ไม่เฉียบขาด ทำได้เพียง 3 ฟิลด์โกล เมื่อบุกมาถึงเขต เรด โซน (เส้น 20 หลาแดนคู่แข่ง)

ซาน ฟรานซิสโก ตอบโต้ด้วย บิ๊กเพลย์ วิลสัน จูเนียร์ อาศัยตัวบล็อก ถือบอลวิ่งทะลุตรงกลางทำสกอร์ระยะ 32 หลา แซงนำ 7-3 ตามด้วย ซามูเอล ทำทัชดาวน์ที่ 2 ของทีม และ ร็อบบี โกลด์ เตะฟิลด์โกล 25 หลา ช่วงควอเตอร์ 3 หลังทีมบุก “คนตื่นทอง” ถูกยันไว้ที่เส้น 1 หลาแดนคู่ต่อสู้

โกลด์ พลาดฟิลด์โกลระยะ 42 หลา กลางควอเตอร์ 4 ส่งผลให้ แรมส์ ยังมีความหวังพลิกสถานการณ์ กระทั่ง สแตฟฟอร์ด เสียอินเทอร์เซ็ปต์