Thailand Sport Magazine Sponsored

ทิศทางมวยปล้้ำ WWE ได้เวลาปฎิรูปเมื่อไร้ “วินซ์ แม็กแมน” Disney-Netflix แย่งสอยกิจการ

Thailand Sport Magazine Sponsored
Thailand Sport Magazine Sponsored


กลายเป็นข่าวฮือฮาบนหน้าสื่อทุกสำนักเมื่อช่วงหลายเดือนก่อน โดย วินซ์ แม็กแมน ที่เวลานั้นดำรงตำแหน่งประธานบริหาร และซีอีโอของศึกมวยปล้ำชื่อดัง WWE ถูกออกมาแฉว่ามีสัมพันธ์สวาทกับลูกจ้างสาวถึง 4 คน ทั้งที่ตัวเองมีภรรยา อย่าง ลินดา แม็กแมน อยู่แล้ว

ตามการรายงานของ “วอลล์ สตรีท เจอร์นัล” สื่อในสหรัฐอเมริกา ระบุว่า วินซ์ แม็กแมน จ่ายเงินให้ผู้หญิง 4 คนที่เขามีความสัมพันธ์ด้วย คนละ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งสิ้น 12 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 440 ล้านบาท เพื่อแลกกับการปิดเรื่องนี้ให้เงียบที่สุด

อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวก็ได้หลุดออกมาสู่สาธารณชนจนได้ เมื่อหญิงสาวบางรายจาก 4 คนดังกล่าว ออกมาแฉสิ่งที่ “ป๋าวินซ์” ได้กระทำลงไปว่ามีอะไรบ้าง จนกลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่


หนึ่งในผู้หญิงที่มีสัมพันธ์กับ วินซ์ แม็กแมน ออกมาแฉว่าเธอถูกบีบบังคับให้ทำออรัลเซ็กซ์ด้วยการใช้ปากขณะที่เธอเพิ่งเข้ามาเป็นนักมวยปล้ำของ WWE และภายหลังเธอถูกลดตำแหน่ง และไม่ได้รับการต่อสัญญาฉบับใหม่ตั้งแต่ปี 2005 ซึ่งเธอปฏิเสธที่จะมีเพศสัมพันธ์กับเขาหลังจากนั้น

นอกจากนี้ผู้หญิงอีกหนึ่งคนซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสัญญาของ WWE ออกมาแฉว่าเธอได้รับเงิน 1 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2008 แลกกับการส่งภาพเปลือยให้ วินซ์ แม็กแมน นอกจากนี้ผู้หญิงอีกคนซึ่งเป็นอดีตผู้จัดการของ WWE ยังได้รับเงิน 1 ล้านดอลลาร์ และมีเพศสัมพันธ์กับเขา


และล่าสุดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว วินซ์ แม็กแมน ได้ออกมาประกาศอำลาจากตำแหน่งประธานบริหาร รวมไปถึงซีอีโอของ WWE พร้อมส่งไม้ต่อให้ สเตฟานี แม็กแมน ลูกสาวของเขาไปดูแลต่อร่วมกับทริปเปิล เอช สามีของเธอ และ นิค ข่าน ประธานคนปัจจุบัน ท่ามกลางเสียงวิพากย์วิจารณ์ที่ว่าเจ้าตัวโบกมือลาเพราะข่าวฉาวดังกล่าว

การโบกมือลาตำแหน่งของ วินซ์ แม็กแมน ส่งผลต่อหุ้นของ WWE พอสมควรในช่วงแรก แต่การส่งผลในครั้งนี้ดูจะเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำไป เพราะหุ้นขององค์กรมวยปล้ำระดับโลกดันพุ่งขึ้นสูงกว่าเดิม จาก 66.25 USD ไปเป็น 72.32 USD หรือเพิ่มขึ้นราว 8 เปอร์เซนต์ภายในวันเดียว ก่อนที่ปัจจุบันจะอยู่ที่ช่วง 68 USD

จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา เผยกับ “ซีเอ็นบีซี” สื่อยักษ์ใหญ่ ว่า การสูญเสียตำแหน่งของ วินซ์ แม็กแมน อาจส่งผลเสียต่อเรื่องราว หรือบทของตัวละครต่างๆ ใน WWE เพราะต้องยอมรับว่าเขามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อเรื่องนี้


แต่การอำลาตำแหน่งของเขากลับส่งผลดีในแง่ของมูลค่าทางการตลาด เพราะได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มองว่าเดิมที WWE มีแผนที่จะขายกิจการให้แก่บริษัทยักษ์ใหญ่ที่สนใจอยู่แล้ว การลงจากตำแหน่งของ “ป๋าวินซ์” ก็ไม่ใช่ปัญหา และนับเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำไปเพราะองค์กรดังกล่าวอาจถึงเวลาต้องปฏิรูปกันใหม่เสียที

ระยะเวลาในการซื้อขาย WWE คาดว่าจะได้ข้อสิ้นสุดในช่วงกลางปี 2023 เวลานี้ผู้ซื้ออาจกำลังตัดสินใจว่าการซื้อขายนั้นจะสมเหตุสมผลกับราคามากแค่ไหน เพราะต้องมองไปในเรื่องของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดซึ่งปัจจุบันศึก Smackdown เป็นของ Fox และ NBAUniversal ถือลิขสิทธิ์ในศึก Raw โดยทั้ง 2 บริษัทจะหมดสัญญาในช่วงปลายปี 2024


ปัจจุบันมีข่าวว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายในอเมริกากำลังสนใจเข้าไปซื้อกิจการของ WWE ไม่ว่าจะเป็น Comcast, Disney, Warner Bros Discovery, Paramount Global, Apple, Amazon และ Netflix

ซึ่งถ้าเรามองแต่ละบริษัทที่ตกเป็นข่าวว่าสนใจจะซื้อ WWE ไปดูแลต่อ ล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทด้านสื่อ และเอ็นเตอร์เทนเมนต์ทั้งสิ้น เพราะพวกเขาเหล่านี้มองว่าเดิมที WWE ก็เป็นมวยปล้ำสำหรับการเอ็นเตอร์เทนคนดูแล้ว ยังสามารถนำไปต่อยอดทำคอนเทนต์ให้สอดคล้องกับแพลตฟอร์มของตัวเองได้ด้วย

หลังจากนี้เราอาจได้ดูมวยปล้ำทุกสัปดาห์ผ่านทาง Netflix, Apple TV หรือเราอาจได้เห็นภาพยนต์แบบยาวๆ ที่หยิบเอามวยปล้ำ WWE มาทำ โดยใช้นักแสดงเป็นนักมวยปล้ำภายในค่าย ที่ถูกสร้างโดยค่ายหนังยักษ์ใหญ่ อย่าง Disney หรือ Paramount


ตามการรายงานจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ของทางสหรัฐอเมริกา ระบุว่า วินซ์ แม็กแมน มองว่าการขาย WWE ในเวลานี้ เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่เขาจะหลุดพ้นจากข่าวฉาวต่างๆ และเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะสร้างมูลค่าให้กับองค์กรแห่งนี้ได้มากที่สุด

เพราะถึง “ป๋าวินซ์” จะอำลาจากตำแหน่งประธานบริหาร และซีอีโอ แต่ทุกคนก็ยังทราบกันดีว่า WWE ยังเป็นของตระกูล “แม็กแมน” เพราะครอบครัวนี้ยังคงถือหุ้นอยู่แบบเต็มเม็ดเต็มเหนี่ยว


ปัจจุบันมวยปล้ำ WWE ยังมีแฟนคลับที่ติดตามอยู่อย่างเหนียวแน่นทั้ง Smackdown และ Raw รวมไปถึงศึกใหญ่ทั้ง 5 อย่าง WrestleMania, SummerSlam, Royal Rumble, Survivor Series และ Money in the Bank ทั้งการดูผ่านช่องลิขสิทธิ์ รวมไปถึงการซื้อ Pay-per-view

น่าสนใจว่าหาก WWE ขายกิจการให้แก่ผู้ที่สนใจได้สำเร็จ จะเป็นการขายหุ้นในรูปแบบใด และพวกเขาเหล่านั้นที่ซื้อหุ้นไปบริหารจะหยิบองค์กรมวยปล้ำที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกแห่งนี้ไปบริหารงานอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องติดตามเป็นอย่างยิ่ง

Thailand Sport Magazine Sponsored
ผู้สื่อข่าว กีฬา

ข่าวกีฬา นักกีฬา กีฬา ในร่ม indoor outdoor ต้องทำ sport ให้เป็น กีฬา หลักของประเทศ ดูข้อมูล กอล์ฟ บาสเก็ตบอล ฟุตบอล ว่ายน้ำ วอลเล่ย์บอล มวย แข่งรถ แบดมินตัน และ อีสปอร์ต Dedicated to all sport news from Thailand, with news updates, stories and event reports on many different types of sporting activities that the Thailand currently holds, across all of the asia.

This website uses cookies.