“ดีเจ” ซิวโบนัสกว่า 648 ล้านบาท แชมป์บุคคล ลิฟ กอล์ฟ 2022

ดัสติน จอห์นสัน เจ้าของสองแชมป์เมเจอร์ สร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการครองแชมป์บุคคลในการแข่งขัน ลิฟ กอล์ฟ ประจำฤดูกาลปี 2022 เป็นที่แน่นอน พร้อมรับเงินรางวัล 18 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 648 ล้านบาท หลังจบด้วยผลงาน 10 อันดับแรกเป็นรายการที่ 5 จาก 6 รายการ ซึ่งรวมกับการคว้าแชมป์จากการแข่งขัน ลิฟ กอล์ฟ อินวิเตชั่นเนล ที่บอสตัน แบบสุดตื่นเต้นอีกด้วย

จอห์นสัน หวด 5 อันเดอร์พาร์ 67 จบด้วยสกอร์รวม 9 อันเดอร์พาร์ 207 ในรอบสุดท้ายของรายการ ลิฟ กอล์ฟ อินวิเตชั่นแนล แบงคอก ที่สนามสโตนฮิลล์ เมื่อวันอาทิตย์ ทำให้ยังรักษาตำแหน่งผู้นำคะแนนสูงสุดในตารางสะสมประเภทบุคคล ซึ่งยังเหลือการแข่งขันอีก 1 รายการในฤดูกาลนี้ที่เจดดาห์ โดย จอห์นสัน คว้า 3 คะแนนจากรายการที่ประเทศไทย รวมกับการรั้งอันดับ 8 ที่ลอนดอน, อันดับ 4 ที่พอร์ตแลนด์, อันดับ 3 ที่ เบดมินสเตอร์, ชัยชนะที่บอสตัน และอันดับ 3 ที่ชิคาโก้ ทำให้มี 121 คะแนนในฤดูกาลนี้ มากกว่า แบรนเดน แกรซ ซึ่งตามมาที่อันดับ 2 ด้วยคะแนนตามหลังห่างถึง 42 คะแนน

สำหรับการแข่งขัน ลิฟ กอล์ฟ จะมอบคะแนนให้กับผู้เล่นที่ติดท็อป 24 ในแต่ละสนาม และคะแนนสำหรับตำแหน่งแชมป์อีก 40 แต้มในการแข่งขันที่ เจดดาห์ ในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับ แกรซ ที่จะไล่ตาม จอห์นสัน ที่ทำผลงานได้อย่างสม่ำเสมอตลอดการแข่งขัน 6 สนามที่ผ่านมา และทำให้เขาจารึกชื่อเป็นแชมป์บุคคลคนแรกของการแข่งขัน ลิฟ กอล์ฟ ฤดูกาลแรก พร้อมรับเงินรางวัลโบนัสอีก 18 ล้านเหรียญสหรัฐ (648 ล้านบาท)

จอห์นสัน เผยว่า “การรักษาตำแหน่งในคะแนนสะสมบุคคลคือสิ่งสำคัญที่สุดของผม และเป็นเกียรติอย่างมากกับการคว้าแชมป์บุคคลในการแข่งขัน ลิฟ กอล์ฟ คนแรก ผมอยากจะขอบคุณ เกรก นอร์แมน และ ลิฟ กอล์ฟ ที่มั่นใจในตัวผม น้องชาย และ ออสติน แคดดี้ รวมถึง พอลีน่า ภรรยาของผม ลูกทีม 4Aces ทุกคนไม่ว่าจะเป็น แพท (เปเรซ), แพทริค (รีด) และ เทย์เลอร์ (กูช) รวมถึงเหล่าบรรดาแฟนๆ ของ ลิฟ กอล์ฟ ทั่วโลก ทีมของเราอยู่ในตำแหน่งที่ดี กับอีก 2 รายการที่เหลือ และยังคงอยากจะมีส่วนร่วมในเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องของ ลิฟ กอล์ฟ ด้วย”

ทางด้าน เกรก นอร์แมน ซีอีโอ และ กรรมธิการบริหาร ลิฟ กอล์ฟ กล่าวว่า “นี่เป็นปฐมบทแรกของประวัติศาสตร์ ลิฟ กอล์ฟ ที่จะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่มีชื่อ ดัสติน จอห์นสัน และไม่ว่าจะเอาอะไรมาเปรียบ ‘ดีเจ’ ก็ยังคงเป็นหนึ่งในผู้เล่นระดับชั้นนำของโลก นับตั้งแต่เริ่มต้นเขาคือผู้เล่นคนสำคัญของ ลิฟ กอล์ฟ เขาเป็นมากกว่าการได้อยู่ในทัวร์เพื่อคว้ารางวัล และเขาสมควรจะได้รับเครดิตอย่างยิ่งกับการคว้าแชมป์บุคคลในฤดูกาลแรก และเราก็ตั้งตารอแทบไม่ไหวที่จะได้เฉลิมฉลองร่วมไปกับเขาในการมอบรางวัลที่ไมอามี่ ในปลายเดือนตุลาคมนี้”

ขณะที่การชิงอันดับ 2 และ 3 บนโพเดียมยังคงอยู่ และต้องไปวัดกันในการแข่งขันใจกลางทวีปตะวันออกกลางในสัปดาห์นี้กับการแข่งขันรายการสุดท้ายของฤดูกาลที่ ลิฟ กอล์ฟ อินวิเตชั่นเนล เจดดาห์ ที่สนาม รอยัล กรีนส์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ระหว่างวันที่ 14-16 ตุลาคมนี้ โดยอันดับ 2 ในอันดับคะแนนสะสมบุคคล จะได้รับเงินโบนัส 8 ล้านเหรียญสหรัฐ (288 ล้านบาท) และอันดับ 3 รับเงินโบนัส 4 ล้านเหรียญสหรัฐ (144 ล้านบาท)

ปัจจุบัน แพทริค รีด แชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส ปี 2018 รั้งในอันดับ 3 ที่คะแนนรวม 76 คะแนน นำหน้าเจ้าของแชมป์ ดิ โอเพ่น ในปี 2022 อย่าง คาเมรอน สมิธ ที่รั้งอันดับ 4 ด้วยคะแนน 56 คะแนน จากผลงานอันยอดเยี่ยม ซึ่งรวมถึงการจบอันดับ 4 ในการเล่น ลิฟ กอล์ฟ รายการแรกที่บอสตัน และการคว้าแชมป์เหนือคู่แข่งถึง 3 สโตรกที่ชิคาโก้ ทั้งนี้แชมป์ในแต่ละสนามจะได้รับ 40 คะแนน ส่วนอันดับ 2 จะได้รับ 30 คะแนน ซึ่งโอกาสในการรั้งอันดับสองของตารางคะแนนสะสมยังเปิดกว้างให้กับนักกอล์ฟมากกว่า 12 ราย ไม่ว่าจะเป็น ชาร์ลส ชวาร์ทเซล (55 คะแนน), แมทธิว โวล์ฟ (50 คะแนน), หลุยส์ ออสธุยเซ่น (49 คะแนน), เซอร์จิโอ การ์เซีย (44 คะแนน), โจอาคิน ไนมันน์ (42 คะแนน), ยูจีน โลเปซ ชาการ์ร่า (41 คะแนน), เฮนริค สเตนสัน (40 คะแนน) และ พอล แคซีย์ (40 คะแนน)

สำหรับสนามสุดท้ายของปี 2022 จะจบลงด้วยการแข่งขันประเภททีมแชมเปี้ยนชิพ ระหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคมนี้ ที่สนามทรัมป์ เนชันเนล โดรัล กอล์ฟ คลับ บลู มอนสเตอร์ คอร์ส ในไมอามี่ ซึ่งจะแข่งแบบน็อคเอาท์ แบบแมทช์เพลย์และ สโตรกเพลย์ ทำให้เกิดความตื่นเต้นในการประกบคู่แข่งขัน โดยบรรดา 12 ทีมที่ลงแข่งขันใน ลิฟ กอล์ฟ จะต้องช่วงชิงเงินรางวัลที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์กับเงินรางวัล 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1,800 ล้านบาท