ขุนพล “ซามูไรบลู” ทีมชาติญี่ปุ่น ตัวแทนจากทวีปเอเชีย แทบจะพับสนามบุกทั้งเกม แต่เจาะแนวรับคู่แข่งไม่เข้า สุดท้ายโดนทีเด็ดของ คอสตาริกา เล่นงานในช่วง 10 นาทีสุดท้าย พ่ายแพ้ไปแบบชอกช้ำใจ 0-1 รอดวล สเปน ชี้ชะตาเข้ารอบน็อกเอาท์แมตช์หน้า
ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ วันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา คู่แรกเป็นเกมนัดที่สองของกลุ่ม อี ทีมชาติญี่ปุ่น ลงสนามพบ ทีมชาติคอสตาริกา แข่งขันกันที่ อาห์หมัด บิน อาลี สเตเดียม
ฮาจิเมะ โมริยาสึ กุนซือทีมชาติญี่ปุ่น มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นในเกมรุกหลายตำแหน่ง โดย ริตสึ โดอัน ดาวเตะที่ยิงประตูช่วยให้ทีมไล่ตีเสมอเยอรมนีในเกมที่แล้วได้ออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรก ขณะที่ ทาคุมะ อาซาโนะ ฮีโร่ผู้ชิงประตูชัยจากเกมก่อนเป็นเพียงตัวสำรอง และส่งอายาเสะ อูเอดะ เป็นตัวจริง
เกมครึ่งเวลาแรกเล่นกันค่อนข้างอึดอัด คอสตาริกา มาแพ็คเกมรับอย่างเหนียวแน่น แม้ญี่ปุ่น พยายามจะตั้งเกมบุกเข้าใส่ แต่แทบหาจังหวะจบสกอร์ไม่ได้ จบ 45 นาทีแรกเสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0
ครึ่งหลังญี่ปุ่นมีการเปลี่ยนแท็คติกมาใช้ปราการหลัง 3 คน และเปลี่ยนผู้เล่นในหลายตำแหน่ง แทบจะขึงสนามบุกใส่คอสตาริกาอยู่ฝ่ายเดียว มีโอกาสทองจากลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษถึง 2 ครั้ง แต่ยังเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้
ถึงแม้ ญี่ปุ่น จะครองเกมได้เหนือกว่า แต่แล้วในนาทีที่ 81 กลายเป็น คอสตาริกา ที่มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะสวนกลับ แนวรับญี่ปุ่นสกัดบอลกันพลาดมาเข้าทาง เคย์เชอร์ ฟูลเลอร์ ปั่นโค้งๆด้วยซ้าย ชูอิจิ กอนดะ พยายามจะป้องกันแต่ปัดไม่ออกก่อนบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
ช่วงเวลาที่เหลือ ญี่ปุ่น พยายามเปิดเกมบุกอย่างหนักเพื่อทวงประตูคืนให้ได้ แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่ดีพอ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที เป็นคอสตาริกา ที่พลิกล็อกเอาชนะไปด้วยสกอร์ 1-0
จากความพ่ายแพ้ดังกล่าวทำให้ ญี่ปุ่น มี 3 แต้ม จาก 2 นัด โดยเกมหน้าพวกเขาต้องเจอศึกหนักด้วยการรับมือ สเปน อดีตแชมป์โลก 2010 ส่วน คอสตาริกา มี 3 แต้ม ยังมีลุ้นเข้ารอบกันทั้งสองทีมในเกมหน้า