“ฉัตรชัย” ผ่าตัดผ่านฉลุย รอฟื้นร่างกาย คาดพักอีกอย่างน้อย 8 เดือน

สถาบันเวชศาสตร์การกีฬาและออกกำลังกาย (BASEM) โรงพยาบาลกรุงเทพ เผยอาการหลังผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าเข่าข้างซ้ายขาด “เจ้าบอย” ฉัตรชัย บุตรพรม ผ่านฉลุย หลังจากนี้เจ้าตัวต้องกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูร่างกายเพิ่มเติม คาดว่าต้องพักอย่างน้อยอีก 8 เดือนเต็ม

​นพ.ภคภณ อิสรไกรศีล ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ ด้านผ่าตัดผ่านกล้องข้อเข่าและข้อไหล่ สถาบันเวชศาสตร์การกีฬาและออกกำลังกาย (BASEM) รพ.กรุงเทพ และแพทย์ประจำทีมชาติไทยในรายการ AFF Suzuki Cup 2020 เผยอาการหลังผ่าตัด บอย- ฉัตรชัย บุตรพรม ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย หลังประสบอุบัติเหตุ เอ็นไขว้หน้าเข่าข้างซ้ายขาด ระหว่างการแข่งขัน และหลังรักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดดำที่ขาแล้ว ได้ทำการผ่าตัด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 ม.ค. 65) โดยวิธีการผ่าตัดส่องกล้อง เทคนิคการผ่าตัดแบบแผลเล็ก Minimally Invasive Surgery (MIS) ที่มีมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อให้เจ็บน้อยและฟื้นตัวได้โดยเร็วที่สุด

ซึ่งผลการผ่าตัดจนวันนี้ (23 ม.ค. 2565) น่าพอใจมาก บอยทำกายภาพบำบัด ฝึกลงน้ำหนักเดินโดยใช้ไม้เท้าค้ำยันประคองได้ดี และเคลื่อนไหวข้อเข่าได้เป็นที่น่าพอใจ มีการใช้เครื่องมืออย่างเลเซอร์ (Laser) และไคโอเธอราปี (Cryotherapy) เพื่อช่วยลดการอักเสบของเนื้อเยื่อหลังผ่าตัด เตรียมให้ผู้ป่วยกลับไปพักฟื้นที่บ้าน และกลับมาทำกายภาพฟื้นฟูต่อเนื่องหลังการผ่าตัดที่โรงพยาบาล และที่สโมสร คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 8 เดือน เพื่อให้ร่างกาพพร้อม กลับไปลงสนามแข่งขันได้อีกครั้ง
 
สถาบันเวชศาสตร์การกีฬาและออกกำลังกาย(BASEM) โรงพยาบาลกรุงเทพ ศูนย์เพื่อความเป็นเลิศทางการแพทย์ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) FIFA Medical Centre of Excellence มีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งในการรักษาอาการบาดเจ็บในนักกีฬาฟุตบอล และรักษาเอ็นไขว้หน้าฉีกขาด ของฉัตรชัย บุตรพรหม

เนื่องจากทีมแพทย์มีประสบการณ์ในการรักษานักฟุตบอลอาชีพมามากมาย มีความเข้าใจและดูแลอย่างใกล้ชิด นำโดย นาวาอากาศเอก(พิเศษ) นพ. ไพศาล จันทรพิทักษ์ ประธานฝ่ายแพทย์ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ นท.นพ. พรเทพ ม้ามณี ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์การกีฬาและออกกำลังกาย(BASEM) โรงพยาบาลกรุงเทพ อีกทั้ง BASEM ยังเป็นสถาบันเวชศาสตร์การกีฬาที่เป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้านการแพทย์ของฟีฟ่า (FIFA Medical Centre of Excellence) เพียงแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย