เผยแพร่: ปรับปรุง:
แม้จะไม่มีแบรนด์กีฬาระดับโลกอย่าง ไนกี้ อยู่เคียงข้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้สถานะการเงินของ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ สุดยอดนักเทนนิสตลอดกาลสั่นคลอน หลังรายงานยังเปิดเผยว่าเจ้าตัวยังฟันเงินรายได้เข้ากระเป๋าอย่างไม่ขาดสาย
โจ ปอมปิลาโน่ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ “ฮัดเดิล อัพ” ซึ่งเก็บรวบรวมข้อมูลธุรกิจและรายได้ของนักกีฬาระดับโลกมากมาย เปิดเผยว่าการที่ เฟเดอเรอร์ ไม่ต่อสัญญากับ ไนกี้ เมื่อ 3 ปีก่อนทำให้เจ้าตัวสูญเสียรายได้ไป 7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 320 ล้านบาท)
เฟเดอเรอร์ แยกทางกับ ไนกี้ ที่ดูแลกันมาตั้งแต่ยุคสร้างชื่อเสียงในวงการลูกสักหลาด โดยเลิกรากันไปเมื่อปี 2018 ก่อนจะย้ายไปทำสัญญากับ ยูนิโคล่ แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังจากญี่ปุ่น ที่พร้อมดูแลเจ้าตัวต่อไปทั้งในและนอกสนามเป็นเวลา 10 ปี
สัญญาที่เซ็นไว้ทำให้ เฟเดอเรอร์ ได้เงินก้อนโตจาก ยูนิโคล่ ถึง 220 ล้านปอนด์ (ประมาณ ล้านบาท) นอกจากนี้ยังเซ็นสัญญากับแบรนด์รองเท้าจากสวิตเซอร์แลนด์ “ออน รันนิ่ง” ผลิตรองเท้ารุ่นพิเศษ แถมยังถือหุ้นอีกที่ 3 เปอร์เซนต์ และเงินสัญญาก็จ่ายให้เท่ากับ ยูนิโคล่
นั่นเลยทำให้การขาดหายไปของ ไนกี้ ไม่ส่งผลอะไรต่อรายได้นอกสนามของ “เฟดเอ็กซ์” เพราะแค่สองยี่ห้อนี้ก็ทำให้นักหวดแชมป์ แกรนด์ สแลม 20 สมัย ฟันรายได้ไป 440 ล้านปอนด์ (ประมาณ 20,270 ล้านบาท) ยังไม่นับรวมสปอนเซอร์ยี่ห้ออื่นที่เซ็นสัญญากันอีกต่างหาก
สำหรับ เฟเดอเรอร์ วัย 40 ปี ปัจจุบันขอพักจากการลงสนามแข่งขันชั่วคราวเพราะต้องเข้ารับการผ่าตัดที่หัวเข่าตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และหยุดพักรักษาตัว ก่อนเผยจะกลับมาลงแข่งอีกครั้งภายในปี 2022