เผยแพร่: ปรับปรุง:
คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลโทนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”
เจ้าเก่งเป็น งง! เมื่อเห็นคุณชูสง่า นั่งรถเข็นออกมาจากห้องตรวจข้อเข่าในสภาพเข่าซ้ายถูกดามด้วย Slab หรือเฝือกฝาเดียวพันผ้ายืด Elasticbandage ออกมาพร้อมพี่หมอ “เฮียขาหักเหรอครับพี่หมอ” “เปล่า” พี่หมอตอบหน้าตาเฉย…..นัยว่า..พี่หมอจับเฮียใส่ Slab ก็เพื่อที่จะให้หายจากอาการเจ็บเข่าได้อย่างรวดเร็วใน 1 สัปดาห์ เพราะงานรับปริญญาของลูกสาวรออยู่ ทั้งนี้อาการปวดเข่าจนเดินกระเผลก เกิดจากเฮียเป็นโรค ข้อเท้าเสื่อมอยู่เดิมแล้วลืมตัวไปเดินมากแถมยังขึ้นบันไดไปไหว้พระในวิหารบนยอดเขาสูงกลับลงมาเลยเกิดอาการเข่าซ้ายอักเสบบวมเป่งปวดจนเดินกระเผลก
อาการปวดข้อในผู้สูงอายุชนิดที่พบบ่อยที่สุดคือ เกิดจากโรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis) ส่วนมากมักพบในข้อใหญ่ๆที่มีการเคลื่อนไหวมากหรือข้อที่รับน้ำหนักมาก เช่น ข้อเข่า ข้อสะโพก ข้อเท้า โรคข้อเสื่อมนี้เกิดจากความเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อนผิวข้อเปลี่ยนสภาพจากผิวเรียบมันกลายเป็นผิวที่ขรุขระ ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของข้อมีการติดขัดไม่ราบเรียบและความเสื่อมนี้จะดำเนินไปเรื่อยๆไม่มีทางกลับคืนเป็นปกติเหมือนเดิม
-ปัจจัยเสี่ยงใดบ้างที่ทำให้เกิดข้อเสื่อม
1.การบาดเจ็บโดยเฉพาะการบาดเจ็บที่รุนแรงหริอการบาดเจ็บที่ซ้ำซาก
2.มักพบในผู้สูงวัยที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
3.คนอ้วน น้ำหนักเกิน
4.ผู้ที่มีโรคกระดูกพรุน
5.ผู้ที่ทำอาชีพที่ต้องยืนหรือเดินมากเป็นประจำ
6.เพศหญิงมีโอกาสเกิดข้อเสื่อมมากกว่าเพศชาย
7.กรรมพันธ์ แม่ที่มีโรคข้อเสื่อมมักพบว่าลูกสาวจะมีข้อเสื่อมด้วย
-การป้องกันและรักษา โรคข้อเสื่อมโดยไม่ใช้ยา ทำอย่างไร?
1.ถ้าคนอ้วนหรือน้ำหนักเกินให้ลดน้ำหนักลง เพราะน้ำหนักที่เกินทำให้ข้อรับน้ำหนักเพิ่มขึ้นทำให้เสื่อมเร็วขึ้น
2.ลดการใช้งานหรือการรับน้ำหนักของข้อ ได้แก่ ลดการวิ่งหรือจ๊อกกิ้ง เพราะเข่าต้องรับน้ำหนักเพิ่ม 10 เท่าของน้ำหนักตัว หลีกเลี่ยงการกระโดด การนั่งยอง นั่งคุกเข่า การนั่งพับเพียบ งดการยกของหนักโดยเฉพาะ 5 กิโลกรัมขึ้นไป
3.บริหารกล้ามเนื้อรอบข้อให้แข็งแรงสม่ำเสมอให้มีการเคลื่อนไหวข้อเข่าหรือข้อสะโพกเป็นเวลา 20-30 นาทีทุกๆวัน
4.ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาอย่างสม่ำเสมอการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีข้อเสื่อม คือ การว่ายน้ำ การปั่นจักรยาน
5.รายที่เป็นรุนแรง อาจใช้เครื่องพยุงข้อและใช้ไม้เท้าช่วยเดิน
ปัจจุบันมียาช่วยชะลอการเสื่อมของข้อเข่ามีสรรพคุณคล้ายเป็นอาหารสำหรับบำรุงกระดูกอ่อน คือ กลูโคซามีน (Glucosamine) โดยทำให้กระดูกอ่อนแข็งแรงขึ้น
ส่วนยาที่ใช้รักษา จะเป็นเพียงยากินบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบ เช่น ibuprofen diclofenac celecoxib เป็นต้น ซึ่งการกินยาควรกินหลังอาหารทันทีเพราะยามีฤทธิ์ระคายกระเพาะในรายที่เป็นโรคกระเพาะอยู่แล้วการให้กินยาป้องกันโรคกระเพาะร่วมด้วยและการใช้ยาลดการอักเสบเป็นเวลานานๆหรือใช้ในขนาดสูงอาจทำให้การทำงานของไตลดลงเกิดโรคไตตามมาได้
โรคข้อเสื่อมเป็นโรคที่ป้องกันได้โดยอย่าให้น้ำหนักเกินหลีกเลี่ยงการใช้ข้อเกินกำลังบริหารให้ข้อต่างๆแข็งแรงอยู่เสมอ การใช้ยาแก้ปวดลดการอักเสบควรใช้เพียงครั้งคราวเราก็สามารถรักษาข้อไว้ใช้ได้นานๆ