เผยแพร่: ปรับปรุง:
เบลเยียม ปฏิเสธรับวัคซีน โควิด-19 ก่อนฟาดแข้งศึกยูโร 2020 วันที่ 11 มิถุนายน – 11 กรกฎาคม เนื่องจากหวั่นเกิดผลข้างเคียง ดับความหวังคว้าแชมป์
รัฐบาลเบลเยียม เปิดไฟเขียว 26 ขุนพล รับฉีดวัคซีน ขณะเดียวกัน สมาคมฟุตบอลของประเทศ ยืนยันว่า นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก สำหรับการลุ้นแชมป์เมเจอร์แรก ในนามทีมชาติ
เบลเยียม ซึ่งครองอันดับ 1 ของโลก ตามแรงกิงของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) มีโปรแกรมประเดิมสนาม พบ รัสเซีย ที่เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก วันที่ 12 มิถุนายน
สตาร์ประจำทีม รวม ธิโบต์ คูร์ตัวส์ นายทวาร, โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์, ทิโมธี คาสตาญ และ โธมัส แฟร์มาเลน 3 ปราการหลัง ตอบรับการฉีดวัคซีน
อย่างไรก็ตาม ทีมของ โรแบร์โต มาร์ติเนซ ถูกยกให้เป็นตัวเต็งทีมหนึ่งของทัวร์นาเมนต์ เป็นเหตุให้นักเตะบางคน ปฏฺิเสธรับวัคซีน “ไฟเซอร์ (Pfizer)” ซึ่งมีผลกระทบต่อสมรรถภาพทางร่างกาย ตามรายงานของ “HLN” สื่อของเบลเยียม
ผลกระทบหลังฉีดวัคซีน อาทิ เหนื่อยง่าย, ปวดศีรษะ, ปวดกล้ามเนื้อ, หนาวสั่น, ปวดข้อต่อ และเป็นไข้ อาจเกิดขึ้นได้มากกว่า 1 ใน 10 คน
ศาสตราจารย์ เดิร์ก ราแมเกอร์ส หัวหน้าฝ่ายวางแผนวัคซีน โควิด-19 คลายความกังวลเกี่ยวกับการปฏิเสธวัคซัน และเผยว่า มีนักเตะจำนวนหนึ่งฉีดวัคซีนแล้ว แต่บางคนขอรอจนจบยูโร 2020
“นักเตะบางคนฉีดวัคซีนที่อื่นมาแล้ว บางคนเคยติดโควิด กรณีหลังจะมีภูมิคุ้มกันอยู่แล้ว และต้องการฉีดวัคซีนหลังจบทัวร์นาเมนต์มากกว่า สำหรับคนที่ยังไม่ได้ฉีด ส่วนมากจะได้รับวัคซีนเมื่อถึงประเทศของเรา”
“ผมมองแง่บวก และสังเกตว่า ผู้เล่นอย่าง ดรีส เมอร์เทนส์, โรเมลู ลูกากู และ เอเดน อาซาร์ เป็นแกนหลัก ก็เหมือนกับสมาคมฟุตบอล และโค้ช คือ สนับสนุนการฉีดวัคซีน”
“ภายในทีมชาติ ส่วนมากได้รับการป้องกันแล้ว ภูมิคุ้มกันหมู่เป็นสิ่งที่ดี เพราะเด็กๆ เหล่านั้น ต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ต้องเว้นระยะห่างอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า บนสนาม, ทีมที่เข้าร่วม จะปกป้องนักเตะมากสุดเท่าที่ทำได้ ด้วยวัคซีนและการตรวจ”