เผยแพร่: ปรับปรุง:
แคนซัส ซิตี ชีฟส์ รองแชมป์เก่า เอาชนะ แอลเอ ชาร์เจอร์ส หวุดหวิด 34-28 ด้วยทัชดาวน์ของ ทราวิล เคลซี ไทต์เอนด์ ช่วงตอเวลาพิเศษ ศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) “เธิร์สเดย์ ไนท์” ที่สนาม โซ-ไฟ สเตเดียม วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม
เคลซี รับทัชดาวน์ระยะ 7 หลา ตีเสมอ 28-28 เหลือเวลา 1 นาที 16 วินาทีของควอเตอร์ 4 และปิดเกมด้วยการรับบอลตรงเส้น 30 แดนคู่แข่ง วิ่งหลบหลีกตัวป้องกันเข้าสู่เอนด์ โซน
แพทริค มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็ก ขว้างบอลเข้าเป้า 31 จาก 47 ครั้ง ระยะมากสุดของซีซัน 410 หลา 3 ทัชดาวน์ เสีย 1 อินเทอร์เซ็ปต์ และ เคลซี ซึ่งถูกประกบติด รับบอลแค่ 6 ครั้งตลอด 2 เกมล่าสุด แต่เกมนี้ รับบอล 5 ครั้ง ระยะ 142 หลา
ไทรีก ฮิลล์ ปีกนอก รับบอล 12 ครั้ง 148 หลา 1 ทัชดาวน์ ส่งผลให้ แคนซัส ซิตี ขยับสถิติเป็นชนะ 7 เกมรวด รวม ชนะ 10 แพ้ 4 นำจ่าฝูงดิวิชัน เอเอฟซี (AFC) ตะวันตก
ฮิลล์ รับบอลทัชดาวน์ 1 หลา และคอนเวอร์ชัน 2 คะแนน ทำให้ทั้ง 2 ทีม เสมอกัน 21-21 โดยสกอร์ดังกล่าวเกิดจากการรับบอลระยะ 69 หลาของ เคลซี
ขณะที่ จัสติน เฮอร์เบิร์ต ควอเตอร์แบ็ก ขว้่างทัชดาวน์ ระยะ 8 หลา ให้ คีแนน อัลเลน ปีกนอก ทำให้ ชาร์เจอร์ส ขึ้นนำ 28-21 เหลือเวลาปกติ 2 นาที 19 วินาที
ความปราชัยของ ชาร์เจอร์ส เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์น่าสยดสยอง โดนัลด์ พาร์แฮม ไทต์เอนด์ วัย 24 ปี ศีรษะกระแทกพื้น หมดสถิติในท่ารับบอล ตั้งแต่ควอเตอร์แรก ถูกหามส่งโรงพยาบาล และอาการทรงตัว
เกมนี้ เฮอร์เบิร์ต ขว้างบอลเข้าเป้า 22 จาก 38 ครั้ง ระยะ 236 หลา 2 ทัชดาวน์ ถือบอลวิ่งเอง 5 ครั้ง ระยะ 16 หลา 1 ทัชดาวน์ แต่สถิติ ชาร์เจอร์ส หล่นเหลือ ชนะ 8 แพ้ 6 อยู่อันดับ 2 ดิวิชันเดียวกัน
ชาร์เจอร์ส ตามหลัง 0-10 ช่วงควอเตอร์ 2 ก่อนทำ 2 สกอร์จาก 2 ไดรฟ์การบุกติดต่อกัน แซงนำ 14-10 ช่วงพักครึ่ง โดย เฮอร์เบิร์ต วิ่ง 1 หลาเข้าเอนด์ โซน และ จาเลน กายตัน รับทัชดาวน์ ระยะ 4 หลา
ชีฟส์ ฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของ ชาร์เจอร์ส ทำ 10 แต้มแรกของเกม หลัง ชาร์เจอร์ส เล่นดาวน์ที่ 4 ไม่สำเร็จ จบการบุก 11 เพลย์ ระยะ 95 หลา ด้วยการรับทัชดาวน์ 7 หลาของ ไมเคิล เบอร์ตัน ขึ้นนำ 7-0
ต่อมา ชีฟส์ เปลี่ยนอินเทอร์เซ็ปต์ของ แอนโธนี ฮิตเชนส์ ไลน์แบ็คเกอร์ เป็น 3 แต้ม จากฟิลด์โกลระยะ 30 หลาของ แฮร์รีสัน บัตเกอร์ ตัวเตะ
ออสติน เอเกเลอร์ รันนิงแบ็ก ชาร์เจอร์ส ทำทัชดาวน์เกมที่ 6 ติดต่อกัน จากการวิ่งระยะ 2 หลา หนีไปเป็น 21-13 ช่วงต้นควอเตอร์ 4 หลัง ยูเชนนา เอ็นโวซู ไลน์แบ็คเกอร์ ตัดบอลขว้างสกรีนของ มาโฮมส์ ตรงเส้น 4 หลา แล้ววิ่งย้อนได้ 2 หลา
จังหวะบาดเจ็บของ โดนัลด์ พาร์แฮม