เผยแพร่: ปรับปรุง:
วันที่ 10 ธันวาคม 2564 เวลา 13.00 น. ตามเวลาประเทศไทย สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน จัดงานแถลงข่าวก่อนการแข่งขันฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติเมียนมา ขึ้น
การแถลงข่าวครั้งนี้ ทางทีมชาติไทยได้ส่ง มาโน โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายทีมชาติไทย เข้าร่วมการแถลงข่าวพร้อมด้วย อองตวน เฮย์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติเมียนมา
ภายในงานแถลงข่าว มาโน โพลกิ้ง กล่าวว่า “เป็นสัปดาห์ที่ดีสำหรับทีมชาติไทยที่ได้มีเวลาพักอย่างเต็มที่ ได้ตัวผู้เล่นจากเจลีกเข้ามาเสริม ทำให้ตอนนี้พอใจกับคุณภาพของทีมอย่างมาก มีตัวเลือกในการใช้งานมากขึ้นและพร้อมสำหรับการเจอกับเมียนมาแล้ว”
“สภาพร่างกายของ “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน และ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ทั้งคู่ได้ลงเล่นในเจลีกกันมา มีสภาพร่างกายที่ดีมากๆ ตอนนี้อยุ่ในช่วงของการหาระบบการเล่นที่ลงตัวสำหรับทีม ด้วยความที่ผู้เล่นในทีมชาติไทยชุดนี้มีคุณภาพมากๆ ทำให้การซ้อมในสัปดาห์นี้เข้มข้น และชื่นชอบการแข่งขันกันเองระหว่างผู้เล่นเพื่อชิงตำแหน่งตัวจริงกัน เป็นเรื่องยากสำหรับตัวเองที่จะตัดสินใจว่าใครจะได้เป็น 11 ตัวจริงในเกมนี้”
“ผมได้ดูฟอร์มของเมียนมาใน 2 เกมที่ผ่านมา พยายามเซ็ตเกมจากแดนหลัง เล่นเกมรุกแล้วก็กล้าเล่นด้วย ดังนั้นก็หวังว่าจะเล่นแบบนั้นกับทีมชาติไทยเช่นกันเพราะจะเปิดพื้นที่ให้ทีมชาติไทยได้เล่นง่ายขึ้น อย่างเกมแรกกับติมอร์เลสเตที่เน้นรับอย่างเดียวทำให้เจาะได้ยาก แต่สุดท้ายถึงเมียนมาจะเปิดเกมรุกหรือเล่นเกมรับก็ไม่มีปัญหาเพราะเตรียมแผนการเล่นเอาไว้แล้ว อย่างไรก็ตามจะไม่ประมาทและหวังว่าจะเก็บชัยชนะในเกมนี้ให้ได้”
“ถ้าไปถึงรอบชิงทีมจะต้องเล่น 7 เกมใน 20 วัน เป็นช่วงที่ยาวนานมาก ดังนั้นจะต้องมีการจัดการที่ดี บางเกมก็อาจจะต้องเปลี่ยนออกมาหรือให้พักเป็นสำรอง เพื่อไม่เสี่ยงให้ได้รับอาการบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าทีมมีผู้เล่นที่ดีมีคุณภาพที่จะทดแทนชนาธิปได้เช่นกัน การเล่นทัวร์นาเมนต์ไม่มีใครลงเล่นได้ตลอดอยู่แล้ว ดังนั้นก็ต้องดูสถานการณ์แต่ละเกมและดูระหว่างซ้อมว่าใครทำได้ดีบ้าง”
“ชนาธิปนั้นเป็นคนที่มีบุคลิกที่ดี เป็นที่รักของทุกคนในทีม สร้างบรรยากาศให้กับทีมดีขึ้น ส่วนคุณภาพฝีเท้าเขาเป็นระดับเจลีก มันเหนือกว่าไทยลีกอยู่แล้ว การที่ไปเล่นเจลีกมาทำให้พัฒนาคุณภาพการเล่นขึ้นมาอย่างมาก มีจุดเด่นหลายอย่างที่จะช่วยทีมได้อย่างแน่นอน”
“สำหรับโจนาธาน เข็มดี เราจะต้องรอเช็คอีกครั้งหนึ่ง รอดูว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่คงบอกไม่ได้ว่าจะได้ลงเล่นในเกมกับเมียนมาหรือไม่”
“สำหรับทีมชาติสิงคโปร์เป็นทีมที่มีผู้เล่นที่ดี จาก 2 เกมเราได้เห็นพวกเขาสลับผู้เล่นลงเล่น ทำให้เห็นว่ามีคุณภาพในการเล่น แต่สิ่งสำคัญคือเกมของเราเอง มีสมาธิในแต่ละนัดที่ลงเล่น ถ้าเอาชนะทุกเกมได้ มันก็มีโอกาสที่จะได้กอดคอเข้ารอบกับสิงคโปร์สูง ดังนั้นเป้าหมายคือเก็บชัยชนะไปทีละเกม ดูกันไปทีละนัด
โปรแกรมนัดต่อไปทีมชาติไทยจะพบกับเมียนมา ในศึกเอเอฟเอฟซูซูกิคัพ 2020 รอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 2 ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ในวันที่ 11 ธันวาคม 2564 เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง 7HD