เผยแพร่: ปรับปรุง:
จากการที่ สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เตรียมจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ในวันที่ 20 ก.ค.นี้ โดยมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย คนใหม่ โดยจะมีผู้ชิงตำแหน่งกัน 2 คน คือ
“เฮียฮง” นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมฯ คนปัจจุบัน ที่ลุ้นตำแหน่งสมัยที่ 2 ติดต่อกัน กับอีกรายคือ “เอส” นายไชยพงศ์ กรวสุรมย์ อดีตผู้จัดการทีมสอยคิวไทย ชุดซีเกมส์ 2021 และเจ้าของกิจการ S1 Signature Snooker Club ภายใต้การสนับสนุนของบรรดานักสนุกเกอร์ชื่อดังหลายคนนั้น
เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา “บิ๊กสิน” นายสินธุ พูนศิริวงศ์ อดีตนายกสมาคมฯ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่บ้านพัก เกี่ยวกับการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า การที่ตนให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ไม่ใช่จะแถลงข่าวหรือเพื่อจะสนับสนุนนายไชยพงศ์ แต่อย่างใด แต่ตนมองว่าเป็นการหาข้อมูลความจริงมากกว่า
“ผมยังรักสุนทรเหมือนเดิม สมัยผมเป็นนายกสมาคมฯ เขาคือผู้จัดการทีมที่ดีที่สุด แต่หลังจากเขาเป็นนายกสมาคมฯ ไม่ถึงปี ผมผิดหวังในการทำงานของสุนทร เพราะมีหลายคนทั้งกรรมการบริหารและนักกีฬา ติดต่อมาบอกว่ามีปัญหามาก
โดยเฉพาะการเงิน ทั้งที่ยุคผมได้ทิ้งเงินให้ 14 ล้านบาท มีคนโทรมาตลอดเวลา ได้รับจดหมายลาออกจากนายพัสสพงศ์ พิทักษ์พูลสิน เลขาธิการสมาคมฯ ระบุว่าบัญชีไม่ตรง ทำให้ผมร้อนใจมากต้องขอคุยกับสุนทร ว่าจริงหรือไม่จริงเพราะมันอาจต้องรับโทษในอนาคต”
นายสินธุ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามีคนอยากให้ตนกลับไปทำงาน แต่ตนยืนยันว่าไม่รับเพราะเมื่อลงจากตำแหน่งแล้ว ตำแหน่งใดๆ ตนก็จะไม่รับอีก เนื่องจากคนที่เป็นนายกสมาคมฯ ต้องพร้อมเดินทาง ต้องทุ่มเท ทำให้ตนอยากให้คนทำงานมีความพร้อมกว่านี้
“ผมมองว่าเขาบริหารไม่เป็นและใช้คนไม่เป็น ผมอยากให้วงการและตัวเขาเดินทางให้ถูกต้อง ปรากฎว่า เขากลับรักษาคนดีไว้ไม่ได้ ทำให้ผมคิดว่าเขาไม่ควรเสนอตัวทำงานต่อไป ทำให้ผมไม่อยากเห็นวงการล่มจมไปมากกว่านี้ ถ้าเลือกตั้งต้องขุดคุ้ยกันแน่ และก็ยังมีหลายเรื่องที่เกิดขึ้น เรื่องล่าสุดคือกีฬาเวิลด์เกมส์ 2022 ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่มีการดูแลนักกีฬาอายุ 19 ปี ไปแข่งขัน ซึ่งมันไม่ดีมากๆ”
ต่อข้อซักถามเรื่องนายไชยพงศ์ นั้น “บิ๊กสิน” กล่าวว่า “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” วัฒนา ภู่โอบอ้อม เป็นคนแนะนำให้รู้จักกับไชยพงศ์ เมื่อไม่นานมานี้ ตนมองว่าเขาตั้งใจดี และตนก็ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว อีกทั้งก็ไม่ได้สนิทกัน แต่มองว่าการบริหารจัดการตรงนี้ถึงเวลาที่สุนทร จะเข้ามายุ่งอีกไม่ได้แล้ว
“ตอนนี้ผมเสียดายที่กรรมการหลายคนกล้าๆ กลัวๆ ที่จะต่อสู้เพื่อความจริง เพราะอย่าลืมว่าเราทำเพื่อสมาคม ไม่ใช่ทำเพื่อนาย ก นาย ข ยิ่งไปกว่านั้นอยากให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ช่วยตรวจสอบถึงประเด็นที่ว่าจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ที่ปัจจุบันกรรมการมีสิทธิ์ออกเสียงด้วยนั้น มันโปร่งใสจริงหรือไม่” บิ๊กสิน กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับ “บิ๊กสิน” นายสินธุ พูนศิริวงศ์ อดีตนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดฯ 16 สมัย กว่า 30 ปี และเมื่อ 4 ปีก่อน ได้สนับสนุนนายสุนทร จารุมนต์ ให้ทำหน้าที่นายกสมาคมฯ ต่อจากตัวเอง