ความเคลื่อนไหวของกิจกรรมประวัติศาสตร์ “FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งต่อกำลังใจจากพี่น้องประชาชนคนไทยไปสู่นักกีฬาทีมชาติไทย ผ่านการวิ่งคนละ 1 กม. ต่อเนื่อง 61 วัน 35 จังหวัด รวมระยะทาง 4,606 กม. เทียบเท่าระยะทางกรุงเทพฯ ไปยังกรุงโตเกียว ล่าสุดเมื่อ 12 เม.ย.64 เข้าสู่วันที่ 16 ของกิจกรรมแล้ว
สำหรับกิจกรรมในวันที่ 16 กำหนดวิ่งระยะทางรวม 84 กม. จากสนามกีฬากลางจังหวัดพัทลุง ไปยังที่ว่าการอำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช โดยในช่วงออกสตาร์ต ได้รับเกียรติจาก นายฉัตรชัย อุสาหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ร่วมอัญเชิญธงชาติไทย พร้อมร่วมวิ่งธงชาติไทยใน กม.แรกของวันด้วยตนเอง
ไฮไลต์ของวันที่ 16 อยู่ที่การเข้าร่วมวิ่งผลัดธงชาติไทยของ 2 นักกีฬาทีมชาติไทย ได้แก่ “เล็ก” ชนาธิป ซ้อนขำ อดีตนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองแดงเทควันโด รุ่น 49 กก.หญิง กีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2012 และ “ไข่เจียว” เอกพล สุขทอง แชมป์เพาะกายโลก 2019 รุ่นแอธเลติกฟิสิค ความสูงไม่เกิน 175 ซม. ซึ่งทั้งคู่ออกมาร่วมวิ่งธงชาติไทยส่งกำลังใจให้น้องๆนักกีฬาทีมชาติเป็นคนที่ 2 และ 3 ตามลำดับ
ขณะที่ใน กม.ที่ 1,192 เจ้าพ่อแฟนซีเเห่งเมืองนครศรีธรรมราช “ธีรพงศ์ สุจเสน” นักร้องอิสระ วัย 42 ปี แต่งกายแบบแฟนซีมาในชุด”ยักษ์สู้” มาสคอตนำโชคของกิจกรรมนี้ ซึ่งการแต่งแฟนซียักษ์สู้ชุดนี้ เปรียบเป็นดั่งสัญลักษณ์ของความเเข็งเเกร่ง ที่พร้อมยืนหยัดสู้คู่นักกีฬาไทย
ทั้งนี้แม้ในวันที่ 16 จะยังคงมีฝนตกลงมาเป็นอุปสรรค แต่สุดท้ายนักวิ่งทั้ง 84 คนช่วยกันทำภารกิจ วิ่งนำธงโบกสะบัดไปถึงที่ว่าการอำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้สำเร็จ ทำให้ผ่านพ้นวันที่ 16 ของกิจกรรมวิ่งส่งชาติไทยไปโตเกียวโอลิมปิก วิ่งสะสมระยะทางไปแล้วถึง 1,234 กม. โดยในวันอังคาร ที่ 13 เม.ย.64 ซึ่งเป็นวันที่ 17 ของกิจกรรม กำหนดวิ่งในเส้นทางจากที่ว่าการอำเภอทุ่งสง ไปยังปั๊มน้ำมันพีทีเวียงสระ 3 จ.สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 76.3 กม.
นายฉัตรชัย อุสาหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า ถือเป็นเกียรติของพี่น้องชาวจังหวัดพัทลุงที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม วิ่งธงชาติไทย ส่งกำลังใจให้นักกีฬาในครั้งนี้ ซึ่งเราก็จัดกิจกรรม โดยมีมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้อย่างชัดเจน ซึ่งตนก็ขอเป็นอีกหนึ่งตัวแทนพี่น้องชาวพัทลุง ส่งกำลังใจให้นักกีฬาไทยได้รับชัยชนะในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้
ด้าน ชนาธิป ซ้อนขำ อดีตจอมเตะเหรียญทองแดงโอลิมปิก เผยว่า ถือเป็นเกียรติและภูมิใจมากที่มีกิจกรรมดีๆในช่วงก่อนโอลิมปิกโตเกียวเกมส์ ที่ จ.พัทลุง ซึ่งก็ถือเป็นกิจกรรมที่ทำให้ทุกคนได้ออกมาร่วมทำกิจกรรมเพื่อส่งแรงกำลังให้กับนักกีฬาทีมชาติไทยทุกคน สำหรับตนขอเป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคนสู้ๆและคว้าเหรียญรางวัลกลับมาแฟนกีฬาและประเทศไทยเยอะๆ
ส่วน เอกพล สุขทอง แชมป์เพาะกายโลก 2019 เผยว่า ถือเป็นวันดีๆ ที่จ.พัทลุง ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในเส้นทางวิ่งธงชาติไทย ซึ่งถือเป็นเกียรติและความน่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งของตนเองและชาวพัทลุงในการร่วมวิ่งธงส่งกำลังใจให้นักกีฬาไทย ซึ่งตนก็ขอฝากแรงกำลังใจไปให้กับนักกีฬาทีมชาติไทยในการแข่งขันโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ด้วย
ขณะที่ ชุมพล ฐิตินันท์ ชาวเชียงใหม่ ซึ่งย้ายมาอาศัยอยู่ที่พัทลุงมาแล้วกว่า 20 ปี เผยว่า สำหรับกีฬาโอลิมปิกถือเป็นมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งนักกีฬาทุกคนต่างก็ใฝ่ฝันที่จะเข้าร่วมและประสบความสำเร็จให้ได้ สำหรับตนการที่เป็นเพียงคนธรรมดา จึงนับว่าเป็นความภาคภูมิใจอย่างมากที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมวิ่งธงชาติไทยครั้งนี้
“ส่วนช่วงเวลาที่ได้รับธงชาติต่อจากอดีตนักกีฬาทีมชาติไทย ถือเป็นอีกช่วงเวลาที่ดีและน่าจดจำมากๆ สำหรับผม นี่ก็เป็นครั้งแรกด้วย ที่ได้เห็นและได้สัมผัสนักกีฬาระดับเหรียญรางวัลโอลิมปิกแบบตัวเป็นๆในระยะใกล้ชิด ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ ครับ สำหรับผมก็ขอเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาทีมชาติไทยทุกๆ คนในกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้”
ปิดท้ายที่ “ธีรพงศ์ สุจเสน” เจ้าพ่อนักวิ่งแฟนซีเมืองนครศรีธรรมราช เผยว่า ความตั้งใจจริงของตนเองในวันนี้คือแต่งชุดแฟนซีมาเพื่อสร้างสีสันให้กับกิจกรรม นักวิ่งท่านอื่นๆ และประชาชนทั่วไป ซึ่งตนก็หวังว่านักกีฬาที่ดูอยู่ จะยิ้มได้ หรือหายเหนื่อยไม่มากก็น้อย ที่ได้เห็นตนใส่ชุดแฟนซี “ยักษ์สู้” ลงวิ่งธงชาติไทย ซึ่งการวิ่ง 1 กม.ในวันนี้ สำหรับตนรู้สึกเหมือนวิ่ง 50 กม. เป็นอีกความภาคภูมิใจที่ประเมินค่าไม่ได้จริงๆ กับการวิ่งที่ตนได้มีส่วนร่วมมาส่งกำลังใจให้กับนักกีฬาไทยในครั้งนี้
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรม รวมถึงรับชมการไลฟ์สด ร่วมเเสดงความคิดเห็นเเละส่งกำลังใจให้กับอาสาสมัครนักวิ่งพี่น้องชาวไทยเเละนักกีฬาไทยได้ที่เฟซบุ๊ค “Road to Tokyo 2020” ตลอดทั้งวัน รวมถึงสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมได้ผ่านช่องทาง www.stadiumth.com เเละเฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/THStadium/
อ่านข่าว – เกริกฤทธิ์ เสียใจโพสต์รับผิด ยิงจุดโทษไม่เข้า – ประกาศทวงแชมป์คืนสักวัน